Posted on

10 ประเทศสุดโรแมนติกต้องไปเคาท์ดาวน์ให้ได้

ใกล้จะเทศกาลปีใหม่แล้วคนส่วนมากนิยมไปเคาท์ดาวน์กันซึ่งมีทั้งในประเทศและต่างประเทศแต่ช่วงนี้มีสถานการณ์โควิดทำให้เราบินไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้แต่วันนี้เราเลยเลือก10 ประเทศสุดโรแมนติก มาให้ได้ชมกัน หลังจากหมดโควิดแล้วใครอยากจะไปตามรอยก็ไปได้เลย

1. London, United Kingdom

เป็นสถานที่ที่ถ้ามีโอกาสต้องมาสักครั้งกับคนที่เรารัก ที่ประเทศอังกฤษจะเรียกกันว่างาน New Year’s Eve ไฮไลท์ของที่นี่คือ บริเวณริมแม่น้ำ Thames , Big Ben และ London Eye ซึ่งจะมีการจุดพลุฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ กับบรรยากาศที่เย็นสบายควรค่าแก่การไปสักครั้งในชีวิตกับคนรัก

2. Paris, France

สถานที่ยอดฮิตติดอันดับโลกที่ได้ขึ้นชื่อว่า เมืองแห่งความโรแมนติก เป็นสถานที่ที่ผู้คนนิยมมาสารภาพรักหรือขอแต่งงานกันเป็นประจำ ไฮไลท์ของที่นี่คือบริเวณ Eiffel Tower ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองปารีส แค่ลองคิดภาพตามก็รู้สึกถึงความโรแมนติกที่เหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยายแล้ว

3. New York, United States of America (USA)

ตื่นตาตื่นใจกับอีกหนึ่งสถานที่คนที่นี่จะเรียกกันว่าเทศกาล New Year’s Eve สถานที่จัดงานคือ รอบๆบริเวณ Time Square ในนิวยอร์ก โดยงานจะจัดตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 31 ธันวาคม จนถึงเที่ยงคืน ภายในงานจะมีการการแสดงตลอดทั้งคืน ก่อนจะปิดงานด้วยการนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ไปพร้อมๆกันกับคนที่เรารัก

4. Berlin, Germany

เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่จัดงานเทศกาล New Year’s Eve ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป สถานที่จัดงานคือบริเวณ Straße des 17. Juni ระหว่าง Brandenburg Gate และ the Victory Column ในเบอร์ลิน ภายในงานจะมีการแสดงคอนเสิร์ต โชว์แสงไฟ และการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการนับถอยหลังไปพร้อมๆกันกับบรรยากาศที่เรียกได้ว่าโรแมนติกสุดๆไปเลย

5. Singapore

ที่สิงคโปร์จะเรียกกันว่างาน Marina Bay Singapore Countdown บริเวณรอบๆมารีน่าเบย์จะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ตระการตาทั้งแสงสีเสียง และ พลุสุดตระการตาไฮไลท์หลักของงานคือพลุไฟหลากสีที่ถูกจุดขึ้นเหนือทะเลสาบเมื่อถึงเวลาก้าวเข้าสู่ปีใหม่ ถ้าได้ไปกับคนที่เรารัก ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่โรแมนติกไม่แพ้ที่อื่นๆเลย

6. Hong Kong

ที่ฮ่องกงจะมีการจัดการลดราคาสินค้าทั้งเกาะในช่วงใกล้ปีใหม่ และมีการแสดงดอกไม้ไฟ และตกแต่งไฟตามตึกต่างๆ ไฮไลท์ของฮ่องกงคือ การไปดินเนอร์จิบเครื่องดื่มเย็นๆชมดอกไม้ไฟ ที่บาร์ Ozone ที่เป็นบาร์บนตึกที่สูงที่สุดในโลกรับรองว่าถ้าได้ลองไปสารภาพรักที่นี่แล้วละก็คงได้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้สร้างความทรงจำดีๆไปด้วยกันแน่นอน

7. Tokyo, Japan

ที่ประเทศญี่ปุ่นจะมีการส่งท้ายปีที่อาจจะไม่เหมือนที่ประเทศอื่นๆ เพราะคนญี่ปุ่นจะนิยมไปวัดหรือศาลเจ้ากันในวันส่งท้ายปี ไฮไลท์ของที่นี่คือ วัดเซนโซจิ หรือที่เรียกกันว่าวัดอาซากุซะ จะเนื่องแน่นไปด้วยผู้คนที่ไปยืนรอต่อแถวเพื่อไปโยนเหรียญอธิฐาน ขอพรในตอนเที่ยงคืน และบริเวณรอบๆจะมีร้านค้าร้านอาหารมากมายเรียกได้ว่าคึกคักสุดๆแบบไม่ต้องกลัวเหงา หรือจะไปวัดโซโจจิที่มีฉากหลังเป็นโตเกียวทาวเวอร์ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรค่าแก่การไปสร้างความทรงจำที่แสนโรแมนติกร่วมกันสุดๆ

8. Sydney, Australia

เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ผู้คนให้ความสนใจและนิยมไปร่วมฉลองปีใหม่ สถานที่จัดงานคือ บริเวณซิดนีย์ฮาเบอร์โดยจะจัดงานตลอดทั้งคืน และมีการแสดงโชว์มากมาย ไฮไลท์ของงานคือ บริเวณสะพานฮาเบอร์และซิดนีย์โอเปร่าเฮ้าส์ พอถึงเวลาเที่ยงคือจะมีการจุดพลุเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ถือว่าได้ไปใช้เวลาร่วมกันกับคนรักก็คุ้มค่า

9. Taipai, Taiwan

เป็นสถานที่ที่มีการจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของโลก ไฮไลท์คือ มีการแสดงมากมายจากศิลปินให้ได้ชม และไฮไลท์ของงานคือการจุดพลุเฉลิมฉลองปีใหม่ที่ตึกไทเป 101 เรียบแต่มากน้อยแต่โก้เหมาะจะพาคนรักไปสวีทหวานในบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติก

10. Dubai, United Arab Emirates

ถ้าพูดถึงดูไบ คงจะอดนึกถึงความหรูหราไม่ได้และถ้าใครชอบความหรูหรา ขอแนะนำให้ดูไบเป็นอีกหนึ่งทางเลือก โดยจะมีการจัดงานตั้งแต่ตามชายฝั่งและตามตึกสูงทรงสวยต่างๆ รวมระยะทาง 60 ไมล์ ไฮไลท์คือที่ Burj Khalifa ตึกที่สูงที่สุดในโลก จะมีพลุพุ่งออกมาจากตึกมากมายมหาศาล พร้อมเสียงดนตรีประกอบ บอกเลยว่าไม่ควรพลาดที่จะมากับคนรักในที่ที่สุดแสนจะพิเศษและโรแมนติก

เป็นไงกันบ้างกับประเทศที่เราเลือกมาให้ได้ดูกัน น่าไปเที่ยวกันทั้งนั้นเลยใช่ไหมละ หลังจากหมดโควิดแล้วก็อย่าลืมไปเที่ยวต่างประเทศกันนะ แต่เที่ยวในประเทศไทยก่อนก็ได้มีที่สวยๆให้เที่ยวเหมือนกัน ถ้าหลังจากโควิดแล้วถ้าได้ไปเที่ยวต่างประเทศรับรองต้องสวยแน่ๆเพราะหลายประเทศปิดประเทศหมด ทำให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟูและทำให้สวยงามมากขึ้น ถ้าเปิดประเทศแล้วคนส่วนมากน่าจะนิยมไปเที่ยวต่างประเทศกันอย่างแน่นอน