ก่อนจะไปดูว่ามีที่ไหนให้เที่ยวบ้าง เรามาทำความรู้จักกับเซนไดกันก่อนดีกว่า เมืองเซนไดเป็นเมืองเอกของมิยางิ และใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮกุ เรียกว่าเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเลยก็ว่าได้ และยังเป็นหนึ่งใน 19 เมืองที่กำหนดขึ้นโดยคำสั่งของรัฐบาล ก่อตั้งโดยไดเมียวดาเตะ มาซามูเนะ เมื่อปี ค.ศ. 1600 รู้ข้อมูลคร่าวๆกันแล้ว เรามาเริ่มดูกันเลยดีกว่าว่าถ้ามาเซนได แล้วจะไปไหนดี
สถานที่ท่องเที่ยวของเซนได
พิพิธภัณฑ์เมืองเซนได (Sendai City Museum)
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เป็นสถานที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ อาวุธในการรบของซามูไรยุคโบราณมากกว่า 1,000 ชิ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของตระกูลดาเตะ ที่ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าที่มีอายุกว่า 400 ปี นอกจากนี้ยังมีชุดเกราะของเจ้าเมืองเซนได โดยเฉพาะชุดเกราะสีดำที่ชื่อว่า “คุโระอุรุชิโกมาอิโดกุโซคุ ของดาเตะ มาซามูเนะ” ที่ได้ชื่อว่าเป็นชุดต้นแบบของดาร์ธ เวเดอร์จากเรื่อง ” สตาร์วอส์ ” นั่นเอง นอกจากนี้ที่นี่ยังมีนิทรรศการที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามฤดูกาลด้วย
ซาคุนามิ ออนเซน (Sakunami onsen)
ซาคุนามิ ออนเซน เป็นออนเซนที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ถือเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงมาตลอด 200 ปี จนได้รับการเรียกขานว่า “บิจิน-ซุคุริ-โนะ-ยุ” หรือน้ำพุร้อนเพื่อผิวพรรณสวยงามของหญิงสาว เพราะถือเป็นน้ำแร่ธรรมชาติที่มีคุณภาพดีและอ่อนโยนต่อผิวกาย นอกจากน้ำพุร้อนแล้ว ในสมัยก่อนที่นี่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตตุ๊กตาโคเคชิ ซึ่งถ้าใครมาที่ออนเซนแห่งนี้ จะได้เห็นตุ๊กตาขนาดใหญ่คอยต้อนรับผู้มาเยือนอยู่ที่ทางเข้าหมู่บ้านด้วย
ปราสาทเซนได (Sendai Castle)
ปราสาทเซนได สร้างขึ้นโดยเจ้าเมืองคนแรกของเซนไดคือ ดาเตะ มาซามูเนะ ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1600 ด้วยพื้นที่ที่เป็นเนินเขาค่อนข้างสูง มีหน้าผา และมีแม่น้ำฮิโรเสะ ทำให้เป็นจุดที่เหมาะแก่การสร้างป้อมปราการเพื่อต่อสู้กับข้าศึก แม้เคยเกิดไหม้ครั้งใหญ่ แต่ตัวปราสาทยังคงความสวยงามและยิ่งใหญ่ไว้ได้เหมือนเดิม แต่เมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ปราสาทแห่งนี้ถูกทำลายลง ปัจจุบันจึงเหลือเพียงแค่ซากของอาคารบางส่วนเท่านั้น
เซนไดไดแคนนอน(Sendai Daikannon)
เซนไดไดแคนนอน คือรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่สูงที่สุดในโลก โดยมีขนาดความสูงอยู่ที่ 100 เมตร ซึ่งภายในรูปปั้นสามารถเดินเข้าไปชมได้ด้วยนะ มีค่าเข้าคนละ 500 เยน ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีเข้าชมฟรี ด้านในรูปปั้นจะมีพระพุทธรูป เจ้าแม่กวนอิม และเทพจำนวนมาก หรือจะขึ้นไปดูวิวจากมุมสูงก็จะเห็นมหาสมุทรแปซิฟิกได้ด้วย ซึ่งเจ้าแม่กวนอิมองค์นี้ สร้างเพื่อฉลองครบรอบ 100 ปี ของการสถาปนาการปกครองแบบใหม่ โดยมือนึงถืออัญมณีที่แปลว่าความสำเร็จ ส่วนอีกข้างถือแจกัน มีมังกรอยู่ด้านล่างบอกถึงความโชคดี
ศาลเจ้าโอซากิ ฮาจิมังกุ (Osaki Hachimangu Shrine)
ศาลเจ้าโอซากิ ฮาจิมังกุ สร้างโดยดาเตะ มาซามุเนะ เมื่อปี 1607 เพื่อบูชาเทพฮาจิมัง เทพแห่งสงคราม ตัวอาคารหลักจะประกอบด้วยหอฮอเดนและหอไฮเดน ซึ่งอยู่ภายใต้หลังคาเดียวกัน โดยหลังคาจะเคลือบสีดำ ตัดกับสีของทองคำเปลวดูสวยงาม นอกจากศาลที่ต้องไปดูแล้ว เราขอแนะนำให้ไปดูภาพนกพิราบที่อยู่เหนือประตูโทริอิ ที่เขียนด้วยใบไม้สีทองกันด้วยนะ เพราะถือเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันศาลเจ้าที่นี่ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญตลอดทั้งปี
ถนนคลิสโรด (Ichibancho & Clis)
ถนนคลิสโรด ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใกล้กับสถานีรถไฟเซนได ถือเป็นถนนสายช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของเมือง โดยแบ่งเป็นถนน 2 เส้น คือ Ichibancho และ Clis ที่มาบรรจบกันคล้ายๆกับตัว T ซึ่งเป็นศูนย์รวมร้านค้า ร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร และคาเฟ่เก๋ๆอีกมากมายเอาใจสายกินสายช้อป ไม่ว่าจะสินค้าอะไร แบรนด์ไหนก็หาซื้อได้ที่นี่ เรียกได้ว่าครบจบในที่เดียว
อาหารขึ้นชื่อของเซนไดมีอะไรบ้าง
ขนมซุนดะโมจิ (Zunda Mochi)
ขนมซุนดะโมจิ เป็นขนมขึ้นชื่อและของฝากยอดนิยมจากเซนได ซุนดะโมจิ คือโมจิที่ราดด้วยถั่วแระญี่ปุ่นบดผสมกับน้ำตาลซุนดะ ซึ่งทำให้มีรสชาติหวานมันและมีกลิ่นหอมของถั่วแระญี่ปุ่นที่เข้ากันได้ดีกับโมจิเหนียวนุ่ม ซึ่งคนเซนไดส่วนใหญ่จะทานขนมนี้ในงานมงคลต่างๆด้วย
ลิ้นวัวย่าง ( Gyutan )
สุดท้าย ใครที่มาเที่ยวเซนไดจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด กับอาหารขึ้นชื่อและมีต้นกำเนิดที่เซนไดอย่างลิ้นวัวย่าง ซึ่งสามารถหาทานได้ง่าย และมีหลายร้านมากๆ วิธีทานคือจะต้องหั่นเป็นชิ้น หมักกับซอสและย่างบนเตาถ่าน โดยจะเสิร์ฟพร้อมกับข้าวและเครื่องเคียง
และทั้งหมดนี้ ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเซนไดที่ยกตัวอย่างมาให้ดูกัน ถ้าใครมีโอกาสได้ไปจะรู้ว่าที่เซนไดมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกเยอะมาก รวมถึงของเมนูท้องถิ่นอีกมากมายให้ได้ลิ้มลอง ก็ถือว่าเป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีเสน่ห์ซ่อนอยู่ ถ้าใครไปญี่ปุ่นก็อยากให้ลองแวะไปเที่ยวเซนไดกันสักครั้ง รับรองว่าไปแล้วไม่ผิดหวังเลยค่ะ
สนใจ / สอบถามทัวร์อื่น ๆ ได้ที่..
▪️Line กด-> https://lin.ee/5nDHUO6
▪️inbox ก็ได้เช่นกัน-> m.me/unithaitrip
☎️ 02-234-5936
