ทัวร์ ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี

 

สำคัญ!! กรุณาแจ้ง..รหัสโปรแกรม..ทุกครั้งที่สอบถาม

ทัวร์ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี มิลาน ปารีส เซิร์น by ETIHAD AIRWAYS 11 วัน 8 คืน
V004 : Europe Lover Italy-Swiss-France BY EY

11 วัน 8 คืน

นั่งรถไฟขึ้นเขากอร์เนอร์แกรท ล่องเรือแม่น้ำแซน ช้อปปิ้งที่ Galeries Lafayette และช้อปปิ้งแบรนด์ดังอย่างจุใจที่มิลาน #เที่ยวยุโรป

Day 1 : สนามบินสุวรรณภูมิ
Day 2 :
อาบูดาบี-มิลาน(อิตาลี) -ปราสาทฟอร์ซ่า- มหาวิหารเซ้นต์แอมโบรจิโอ -โบสถ์ซานตามาเรีย-ทาซ (สวิตเซอร์แลนด์)
Day 3 : ทาซ-เซอร์แมท-นั่งรถไฟขึ้นเขากอร์เนอร์แกรท-ชมวิวแมทเทอฮอร์น-มงเทรอซ์-ปราสาทชิลยอง
Day 4 : มงเทรอซ์-เวเว่ย์-โลซานน์-ดิจอง (ฝรั่งเศส)
Day 5 : ดิจอง-ปารีส-ช้อปปิ้งห้างแกลเลอรี่ลาฟาแยตต์-ล่องเรือชมแม่น้ำแซน
Day 6 : ปารีส-แวร์ซายส์-พระราชวังแวร์ซายส์-ดิจอง
Day 7 : ดิจอง-เบิร์น (สวิสเซอร์แลนด์) - ลูเซิร์น
Day 8 : ลูเซิร์น-ลูกาโน่
Day 9 : ลูกาโน่-เบอร์กาโม่ (อิตาลี)-มิลาน
Day 10 : มิลาน-สนามบิน
Day 11 : สนามบินสุวรรณภูมิ

****อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม****

Day 1 : สนามบินสุวรรณภูมิ
17.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตูทางเข้าระหว่างหมายเลข 8-9  เคาน์เตอร์สายการบิน Etihad  Airways เคาน์เตอร์เช็คอิน ROW- Q
**กรณีที่บางท่านเดินทางมาจากต่างประเทศหรือต่างจังหวัดกรุณาตรวจสอบเวลาการเดินทางแต่ละกำหนดการเดินทางอีกครั้งก่อนทำการจองตั๋วโดยสารส่วนตัวของท่าน เนื่องจากรายการทัวร์เป็นรายการซีรี่ส์และได้มีการดำเนินการไว้ล่วงหน้าหลายเดือน เมื่อเปลี่ยนฤดูกาล เวลาการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลง**
21.05 น. ออกเดินทางสู่กรุงมิลาน ประเทศอิตาลีโดยสายการบิน Etihad  Airways    เที่ยวบินที่ EY-407

Day 2 : อาบูดาบี-มิลาน(อิตาลี) -ปราสาทฟอร์ซ่า- มหาวิหารเซ้นต์แอมโบรจิโอ -โบสถ์ซานตามาเรีย-ทาซ (สวิตเซอร์แลนด์)
00.30 น. เดินทางถึงสนามบินกรุงอาบูดาบี  เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง
02.55 น. ออกเดินทางสู่มิลาน  โดยสายการบิน Etihad  Airways เที่ยวบินที่ EY-081
06.10 น. เดินทางถึงสนามบินมัลเพนซ่า กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง และตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ใจกลางเมืองมิลานหรือมิลาโน เมืองหลักของแคว้นลอมบาร์เดียและเป็นเมืองสำคัญทางภาคเหนือของประเทศอิตาลี มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับนิวยอร์ค ปารีส ลอนดอน และโรม นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักในด้านอุตสาหกรรมผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ รวมไปถึงสโมสรฟุตบอลอินเตอร์มิลานและสโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน นำท่านชมปราสาทฟอร์ซ่า หรือ Sforzesco Castle ได้รับการก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 15 โดยฟรันเชสโกสฟอร์ซา ดยุคแห่งมิลาน ต่อมาได้มีการบูณะและขยายใหญ่ขึ้นในช่วงยุคศตวรรษที่ 19 และ 17 และยังเป็นที่ตั้งของป้อมปราการที่ใหญ่ที่สุดแหน่งหนึ่งในยุโรป 
จากนั้นชม มหาวิหารเซ้นต์แอมโบรจิโอ Basilica of Sant’Ambrogio หนึ่งในโบสถ์ที่เก่าที่สุดในเมืองมิลาน ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับนักบุญแอมบรอสแห่งมิลาน ตัวอาคารแสดงถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานและศิลปะอันศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา เป็นตัวอย่างของงานสถาปัตยกรรมแบบโรมันในยุคลอมบาร์ด โดยจะเห็นได้จากหอระฆัง 2 หลังที่เก่าแก่ที่สุด และต่อมาได้มีการบูรณะอาคารอย่างหนักปัจจุบันประกอบไปด้วยอาคาร 3 ชั้น ด้านข้างประกอบไปด้วยงานศิลปะสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ หลังคาตกแต่งด้วยงานปูนปั้นและแท่นบูชาทองคำ 
และนำท่านชมและถ่ายรูปภายนอกกับโบสถ์ซานตามาเรีย เดลเลกราเซีย Santa Maria Del Grazie โบสถ์ที่มีความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์เเละมีความงดงามอย่างมากในเชิงสถาปัตยกรรมถูกสร้างขึ้นในปี 1469 เพื่ออุทิศให้เเก่พระเเม่มารี ซึ่งปัจจุบันนี้ได้รับการยกย่องในฐานะมรดกโลกของยูเนสโกด้วยเป็นที่เก็บผลงานศิลปะชื่อก้องโลกอย่าง 'อาหารค่ำมื้อสุดท้าย' หรือ The Last Supper ผลงานชิ้นโบแดงของเลโอนาร์โด ดาวินชี ที่ถูกรักษาไว้ที่โบสถ์แห่งนี้
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่เมืองทาซ Tasch เมืองเล็กๆ น่ารักที่รายล้อมไปด้วยยอดเขาสูงมากมายเป็นทัศนียภาพที่สวยมากๆ อีกจุดหนึ่ง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) 
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม Elite Hotel, Tasch หรือระดับเทียบเท่า

Day 3 : ทาซ-เซอร์แมท-นั่งรถไฟขึ้นเขากอร์เนอร์แกรท-ชมวิวแมทเทอฮอร์น-มงเทรอซ์-ปราสาทชิลยอง
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านนั่งรถไฟจากเมืองทาซสู่เมืองเซอร์แมท Zermatt ด้วย Shuttle Train เซอร์แมทเป็นเมืองเล็กๆน่ารักและมีบรรยากาศสบายๆ ล้อมด้วยเขาสูงสวยงาม ด้วยเป็นเมืองปลอดพาหนะที่วุ่นวาย เนื่องจากไม่อนุญาตให้รถยนต์วิ่งและเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องว่าปลอดมลพิษที่ดีแห่งหนึ่งของโลก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 นาที) และนำท่านเปลี่ยนเป็นขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟกอร์เนอร์แกรท Gornergrat Bahn เพื่อนำท่านนั่งรถไฟไต่เขาขึ้นสู่ยอดเขากอร์เนอร์แกรท ผ่านธรรมชาติทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่สวยงามทั้งสองข้างทางจนกระทั่งถึงยอดเขากอร์เนอร์แกรท (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) 
ยอดเขาแห่งนี้มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 3,286 เมตร โดยมีฉากหลังเป็นวิว “ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น” Matterhorn ยอดเขาที่มีรูปทรงคล้ายพีระมิดที่โค้งลงเล็กน้อยซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีความสูงกว่า 4,478 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ความงามที่แปลกตาและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแมทเทอร์ฮอร์น ทำให้มีบริษัทโด่งดังระดับโลกต่างช่วงชิงเพื่อที่จะได้ครอบครองให้เป็นเสมือนดั่งตัวแทนสัญลักษณ์ของตน ทั้งช็อกโกแล็ตทับเบอโรนที่ผู้คนทั่วโลกต่างรู้จักกันเป็นอย่างดีและผู้ผลิตหนังรายใหญ่อย่างพาราเมาท์พิคเจอร์ที่นำแมทเทอร์ฮอร์นไปทำเป็นโลโก้ของบริษัทจนเป็นที่จดจำของผู้คนจากทั่วโลก อิสระให้ท่านได้ชมและถ่ายรูปกับวิวทิวทัศน์อันตื่นตาตื่นใจของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น จนได้เวลาสมควรนำท่านนั่งรถไฟกลับสู่เมืองเซอร์แมท
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง 
บ่าย นำท่านเดินทางโดยรถไฟกลับสู่เมืองทาซ ด้วย Shuttle Train รถโค้ชรอรับท่านที่สถานี จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองมงเทรอซ์ Montreux (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองตากอากาศริมทะเลสาบเจนีวาที่มีชื่อเสียงเย้ายวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อน ด้วยความเงียบสงบของตัวเมืองกับบรรยากาศที่สุดแสนสบาย จากนั้นนำท่านเข้าชมปราสาทชิลยอง Chillon Castle ปราสาทยุคกลางที่มีความเก่าแก่กว่า 1,000 ปี โดยปราสาทถูกสร้างขึ้นในช่วงสมัยของโดยราชวงศ์ซาวอย ซึ่งถือได้ว่าเป็นอัญมณีทางประวัติศาสตร์ของสวิตเซอร์แลนด์ จากนั้นนำท่านเดินเล่นชมเมืองมองเทรอซ์เมืองตากอากาศริมทะเลสาบเจนีวาที่มีชื่อเสียงเย้ายวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อน ด้วยความเงียบสงบของตัวเมืองกับบรรยากาศที่สุดแสนสบาย นำท่านชมรูปปั้นของ 
เฟรดดี้ เมอร์คูรี่ นักร้องวงควีนเจ้าของบทเพลง We are the Champion ซึ่งถัดไปเป็น Casino Barrière de Montreux โดยตรงข้ามกับคาสิโนคือ Tour d'Ivoire ตึกสูงที่สุดของมองเทรอซ์สร้างมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1962 มีจำนวนชั้นทั้งหมด 29 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัยอีกด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
นำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก Golf Hotel Rene Capt, Montreux หรือระดับเทียบเท่า

Day 4 : มงเทรอซ์-เวเว่ย์-โลซานน์-ดิจอง (ฝรั่งเศส)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางต่อสู่เมืองเวเว่ย์ Vevey เมืองเล็กๆริมทะเลสาบเจนีวา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที)  ให้ท่านแวะถ่ายรูปกับรูปปั้นชาลี แชปลิ้น Chaplin Statue ชาวอังกฤษที่มีผลงานสร้างชื่อเสียงในอเมริกาที่มีความหลงใหลและท่านเลือกเวเว่ย์เป็นสถานที่พักกายใจในบั้นปลายของชีวิต และถ่ายรูปกับส้อมยักษ์ The Fork ที่อยู่กลางทะเลสาบเจนีวา จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองโลซานน์ Lausanne Lausanne  เมืองใหญ่อันดับ5 ของสวิตเซอร์เเลนด์ริมทะเลสาบเจนีวาที่เเสนจะงดงาม โดยฝั่งตรงข้ามเป็นเมืองคาสิโนชื่อดังของฝรั่งเศสอย่าง vian-les- (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที)  นำท่านชมเมืองโลซานน์ โดยเริ่มจากวิหารแห่งเมืองโลซานน์ หรือชื่อเดิมรู้จักกันในนาม Cathedral of Notre Dame of Lausanne โบสถ์คริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ สร้างด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค บริเวณซุ้มทางเข้ามีการแกะสลักอย่างสวยงาม ส่วนด้านในมีกระจกสีที่สามารถขึ้นบันได 160 ขั้นขึ้นไปยังยอดของวิหารได้ เดิมวิหารโลซานน์นี้มีชื่อว่าวิหารนอเทรอดาม ตามการตั้งชื่อของนิกายคาทอลิกแต่เมื่อเปลี่ยนเป็นวิหารนิกายโปรเตสแตนต์ในยุคที่มีการปฏิรูปศาสนา จึงไม่มีใครเรียกวิหารแห่งนี้ว่าวิหารนอเทรอดามอีกแต่เรียกเป็นมหาวิหารโลซานน์แทน และนำท่านถ่ายรูปกับศาลาไทย Thai Pavilion ที่รัฐบาลไทยส่งไปตั้งในสวนสาธารณะของเมืองโลซานน์ใกล้กลับพิพิธภัณฑ์โอลิมปิก ซึ่งศาลาไทยตั้งอยู่ในสวนสาธารณะที่มีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา อันเป็นสถานที่ทรงโปรดของในหลวงเมื่อทรงพระเยาว์  
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่เมืองดิจอง Dijon ประเทศฝรั่งเศส (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชั่วโมง)  เมืองหลวงของแคว้นเบอร์กัน นำผ่านท่านชมเมืองดิจอง ที่เป็นเมืองชุมทางรถไฟและศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส ที่มีลักษณะคล้ายปารีสอย่างมาก และเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามของฝรั่งเศส เป็นแหล่งที่มีชื่อเสียงในเรื่องของไวน์ชั้นเลิศและมัสตาร์ดชั้นดีอีกแห่งของฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวและทัศนียภาพสวยงามต่างๆ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เขาไปสัมผัสความงาม
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม Mercure Dijon Clemenceau Hotel, Dijon หรือระดับเทียบเท่า

Day 5 : ดิจอง-ปารีส-ช้อปปิ้งห้างแกลเลอรี่ลาฟาแยตต์-ล่องเรือชมแม่น้ำแซน
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่มหานครปารีส Paris (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) เมืองที่โด่งดังทั้งเรื่องแฟชั่น สถาปัตยกรรมและมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานนับร้อยปี 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านชมมหานครปารีสโดยเริ่มจากเก็บภาพของหอคอยไอเฟิล บริเวณหน้าโรงเรียนการทหารหรือจัตุรัสทรอคาเดโร, แวะถ่ายรูปกับประตูชัยแห่งจักรพรรดินโปเลียนหรือ Arc De Triomphe ณ จัตุรัสชาร์ลสเดอโกลล์, ผ่านชมถนนชองเอลิเซ่ย่านหรูหราราคาแพงที่โด่งดัง จัตุรัสคองคอร์ตที่ออกแบบโดยเลอโนตร สถาปนิกผู้ริเริ่มสร้างเมืองแวร์ซายส์ให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่ชวนให้ระลึกถึงการปฏิวัติใหญ่ฝรั่งเศส  นำท่านชมภายนอกและถ่ายรูปกับพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ Louvre Museum สถานที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกจำนวนมาก ตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ได้รับการออกแบบจากสถาปนิกชาวจีน-อเมริกัน ซึ่งได้เปิดให้สาธารณะชนเข้าชมได้เมื่อปี ค.ศ.1793 มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์กาเปเซียง ตัวอาคารเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวง ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมาก อย่างเช่น ภาพเขียนโมนาลิซาผลงานของเลโอนาร์โด ดาวินชี  และนำท่านเดินทางสู่ย่านช้อปปิ้งหรูใจกลางกรุงปารีส อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมสุดหรู ณ ห้างดังใจกลางกรุงปารีส ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ใกล้กับโรงโอเปร่าการ์นิเยร์ มีสาขาอยู่ตามเมืองใหญ่ๆมากมายในหลายๆ ประเทศ แต่ที่โด่งดังขึ้นชื่อที่สุดคงเป็นสาขาปารีส ที่ตั้งอยู่บนถนนโฮสมานน์ เปิดกิจการในค.ศ.1894 ในย่านโอเปร่าที่คนปารีสชอบเดินช้อปปิ้งกันมากที่สุด มีสินค้าหลายหลากแบรนด์ดังไว้สำหรับนักช้อปปิ้ง ให้เลือกสรรได้อย่างครบครัน อาทิ Prada, Gucci, Louis Vuitton, Versace, Chanel, Hermes, Dolce & Gabbana, Burberry เป็นต้น
จากนั้นนำท่านสู่ท่าเรือเพื่อนำท่านล่องเรือชมแม่น้ำแซน Bateaux Mouche ชมแม่น้ำสายหลักของนครปารีส และทัศนียภาพสองฟากฝั่งและสถาปัตยกรรมอันงดงามของอาคารสวยงามต่างๆ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง 
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม Best Western Plus Paris Velizy Hotel, Paris หรือระดับเทียบเท่า

Day 6 : ปารีส-แวร์ซายส์-พระราชวังแวร์ซายส์-ดิจอง
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองแวร์ซายส์ Versailles เมืองที่ตั้งของพระราชวังหรูหราชื่อดังของโลก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงปารีส ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของมหานครปารีส (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) นำท่านเข้าชมพระราชวังแวร์ซายส์ Versailles Palace พระราชวังที่ยิ่งใหญ่และสวยงามแห่งหนึ่งของโลกและนับเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบันด้วย พระราชวังแวร์ซายส์ เป็นอดีตพระราชวังในยุคสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่สร้างได้อย่างวิจิตรบรรจงจนกลายเป็นต้นแบบของพระราชวังอื่นๆ มากมาย เดิมทีเมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศสยังทรงพระเยาว์ ทรงนิยมล่าสัตว์และทรงเห็นว่าตำบลแวร์ซายส์น่าจะเหมาะแก่การประทับเพื่อล่าสัตว์ จึงโปรดเกล้าสร้างพระตำหนักขึ้นมาในปี 1624 โดยในช่วงแรกเป็นเพียงกระท่อมเล็กๆ สำหรับพักชั่วคราวเท่านั้น เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ขึ้นครองบัลลังก์ จึงมีพระประสงค์ที่จะสร้างพระราชวังแห่งใหม่ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการปกครองของพระองค์ จึงเริ่มมีการปรับปรุงพระตำหนักเดิมในปี 1661 โดยใช้เงินทั้งหมด 5 แสนล้านฟรังค์ คนงานอีก 30,000 คนและใช้เวลาอยู่ถึง 30 ปีจึงแล้วเสร็จในปี 1688 ทุกส่วนทำด้วยหินอ่อนสีขาวเป็นแบบอย่างศิลปกรรมที่งดงามมาก การก่อสร้างพระราชวังแวร์ซายส์แห่งนี้ได้นำเงินมาจากค่าภาษีอากรของราษฎรชาวฝรั่งเศส ต่อมาจึงได้มีกองทัพประชาชนบุกเข้ายึดพระราชวังและจับพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศสกับพระนางมารี อองตัวเนตประหารด้วยกิโยติน ในวันที่ 16 ตุลาคม 1789 ปัจจุบันพระราชวังแวร์ซายส์ยังอยู่ในสภาพดีและเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ นำท่านชมภายในที่มีการแบ่งเป็นห้องต่างๆ อาทิ ห้องบรรทม  ห้องเสวย ห้องสำราญ เป็นต้น ทุกห้องล้วนมีเครื่องประดับงดงามตระการตาและภาพเขียนที่มีชื่อเสียงอาทิ ห้องกระจก (Galerie Des Glaces หรือ The Hall of Mirrors) เป็นห้องที่มีชื่อเสียงมากที่สุดซึ่งเคยใช้เป็น ห้องลงนามในสัญญาสงบศึกระหว่างสัมพันธมิตรกับจักรวรรดิเยอรมัน ในสงครามโลกครั้งที่ 1 และใช้เป็นที่ลงนาม ในเมื่อเยอรมนีบุกตีชนะฝรั่งเศสในสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย ห้องนี้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงทำการก่อสร้างเอง ภายในห้องประกอบด้วยกระจกยักษ์ 17 บาน เปิดออกแล้วจะเห็นสวนแวร์ซายส์อันสวยงาม ในพระราชวังแวร์ซายส์มีห้องทั้งหมด 700 ห้อง รวมภาพวาดทั้งหมด 6,123 ภาพและงานแกะสลักทั้งหมด 15,034 ชิ้น พร้อมฟังบรรยายจากมัคคุเทศก์ทั้งในส่วนของกษัตริย์และพระราชินีรวมทั้งห้องโถงกระจกที่ทูตจากสยามได้เคยเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ให้เวลาท่านเดินเล่นบริเวณอุทยาน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน 
บ่าย นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่เมืองดิจอง Dijon ประเทศฝรั่งเศส (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง)  
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม Mercure Dijon Clemenceau Hotel, Dijon หรือระดับเทียบเท่า

Day 7 : ดิจอง-เบิร์น (สวิสเซอร์แลนด์) - ลูเซิร์น
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่กรุงเบิร์น Berne เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ที่สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีในยุคกลางของยุโรป มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากมายซึ่งองค์การยูเนสโก้ประกาศให้ส่วนหนึ่งของเมืองเป็นมรดกโลก 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน 
บ่าย นำท่านชมเมืองเก่ากรุงเบิร์นโดยเริ่มจากย่านถนนมาร์คกาสเซ Marktgasse  ซึ่งปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินทางเที่ยวชมอาคารเก่าอายุ 200-300 ปี ที่มีหอนาฬิกาดาราศาสตร์ไซ้ท์ กล็อคเค่น Zytglogge Clock Tower อายุกว่า 800 ปีที่จะมีตุ๊กตาออกมาเริงระบำให้ดูทุกๆ ชั่วโมงที่นาฬิกาตีบอกเวลา จากนั้นแวะถ่ายรูปกับบ่อหมีสีน้ำตาล Bear Park สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น จากนั้นเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น Luzern (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของสวิสที่หลายท่านอาจจะเคยไปเยือนมาแล้ว แต่ลูเซิร์นก็ยังคงมีความสวยงามเหมือนเดิม
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม Ibis Styles Luzern City Hotel, Lucerne หรือระดับเทียบเท่า

Day 8 : ลูเซิร์น-ลูกาโน่
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านชมเมืองลูเซิร์น ชมอนุสาวรีย์สิงโต Lion Monument ซึ่งแกะสลักอยู่บนหน้าผาของภูเขาในเมืองเป็นสัญลักษณ์ให้ระลึกถึงทหารรับจ้างชาวสวิสซึ่งทำงานเป็นทหารรักษาพระองค์พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส และชมสะพานไม้ชาเพล Chapel Bridge ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ประดับตกแต่งบนโครงหลังคาหน้าจั่วด้วยภาพวาดในศตวรรษที่ 17 ซึ่งภาพเขียนเหล่านี้เป็นการเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของเมืองลูเซิร์น โดยมีหอคอยน้ำ Wasserturm อยู่กลางสะพาน ซึ่งเดิมใช้เป็นที่คุมขังนักโทษและเก็บเอกสารรวมทั้งของมีค่าของเมืองไว้ หอคอยนี้มีลักษณะเป็นรูปทรงแปดเหลี่ยมที่มีฐานเชื่อมติดอยู่กับสะพานสร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 1300 สะพานแห่งนี้เคยถูกไฟไหม้ไปเมื่อปี ค.ศ. 1993 แล้วก็มีการบูรณะใหม่จนมีสภาพใกล้เคียงของเดิมถือเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน 
บ่าย นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่เมืองลูกาโน่ Lugano เมืองทางตอนใต้ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) จากนั้นนำท่านชมเมืองที่มีความงดงามทางธรรมชาติราวกับภาพวาด เมืองที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาจำนวนมาก ตั้งอยู่ริมทะเลสาบลูกาโน่ ทะเลสาบที่มีชื่อเดียวกับชื่อเมืองและเป็นเมืองหลวงแห่งพันธรัฐทิซิโน่ ที่มีบรรยากาศแบบผสมผสานสวิส-อิตาเลี่ยน จนได้รับการขนานนามว่า”สวิสริเวียร่า” ในฐานะเป็นเมืองตากอากาศของชาวสวิส นำท่านชมความงามย่านเมืองเก่า ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองที่มีลักษณะเป็นจัตุรัสสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน และยังเป็นที่ตั้งของย่านการค้ารวมไปถึงเหล่าอาคารเก่าแก่ของเมือง ถือเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่ทำให้ได้เพลิดเพลินไปกับวัฒนธรรมและประเพณีดั้งเดิมของเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี  
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม De La Paix Hotel, Lugano หรือระดับเทียบเท่า

Day 9 : ลูกาโน่-เบอร์กาโม่ (อิตาลี)-มิลาน
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองเบอร์กาโม Bergamo (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)  เมืองทางตอนเหนือของประเทศอิตาลีและไม่ไกลจากเมืองมิลาน เป็นเมืองที่มีความสำคัญ ทางประวัติศาสตร์ของแคว้นลอมบาร์ดีย์หนึ่งใน 20 แคว้นของประเทศอิตาลี มีชื่อเสียงเกี่ยวกับบรรยากาศของความเป็นเมืองยุคกลางที่มีเสน่ห์ผสมผสานไปด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลายของศิลปะและประวัติศาสตร์ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ  นำท่านเยี่ยมชมย่านเมืองเก่า Citta Alta ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองนั้นล้อมรอบด้วยกำแพงเมืองแบบเวนิส ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ชมย่านจัตุรัสเก่า เปียสซ่า เว็คเคียร์ Piazza Vecchia และ Old square ซึ่งเป็นย่านใจกลางเมืองเก่าที่แวดล้อมไปด้วยเหล่าอาคารที่แสดงออกถึงการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมของยุคกลางและเรเนสซองส์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน 
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองมิลาน Milan (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)  นำท่านชมจัตุรัสสกาล่าและรูปปั้นดาวินชี และให้ท่านถ่ายรูปและชมความยิ่งใหญ่ภายนอกของ มหาวิหารแห่งเมืองมิลานหรือมิลานดูโอโม มหาวิหารหินอ่อนแบบกอธิคที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในยุโรป สร้างในปี ค.ศ.1386 ด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิคผสมผสานกันเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ใช้เวลาสร้างนานถึง 500 ปี มีความวิจิตรงดงามและประดับประดาไปด้วยรูปปั้นนับกว่า 3,000 รูป มีหลังคายอดเรียวแหลมจำนวน 135 ยอด บนสุดมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตรของพระแม่มาดอนน่าเป็นสง่าอยู่ มีลานกว้างด้านหน้าดูโอโมที่มีอนุสาวรีย์พระเจ้าวิกเตอร์เอมมานูเอลที่ 2 ทรงม้าคือสถานที่จัดงานสำคัญต่างๆ  และนำท่านสู่แกลเลอรี่ วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล ที่นับว่าเป็นช้อปปิ้งอาเขตที่สวยที่สุดในอิตาลีมากว่า 100 ปี เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมที่ทันสมัย มีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองท้า และนาฬิกาแบรนด์ชื่อดังมากมาย อาทิ Louis Vuitton, Prada , Versace, Gucci, Armani หรือแบรนด์ดังจากอิตาลี อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังอย่างจุใจ
**เพื่อความสะดวกในการเดินเล่นและเลือกซื้อสินค้า อิสระให้รับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย**   
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม NH Milano Fiera Hotel, Milan หรือระดับเทียบเท่า

Day 10 : มิลาน-สนามบิน
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
จากนั้นให้ท่านเช็คเอ๊าท์จากที่พัก 
09.50 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบิน Etihad  Airways เที่ยวบินที่ EY-088
18.45 น. เดินทางถึงสนามบินกรุงอาบูดาบี  เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง
21.45 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบิน Etihad  Airways เที่ยวบินที่ EY-402

Day 11 : สนามบินสุวรรณภูมิ
07.20 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  โดยสวัสดิภาพ.. 
**กรณีที่บางท่านเดินทางต่อไปต่างประเทศหรือต่างจังหวัดกรุณาตรวจสอบเวลาการเดินทางแต่ละกำหนดการเดินทางอีกครั้งก่อนทำการจองตั๋วโดยสารส่วนตัวของท่าน เนื่องจากรายการทัวร์เป็นรายการซีรี่ส์และได้มีการดำเนินการไว้ล่วงหน้าหลายเดือน เมื่อเปลี่ยนฤดูกาลเวลาการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลง**


ทัวร์ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี มิลาน อื่นๆ

แพ็คเกจ ทัวร์ หรือโรงแรมฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี ราคาใกล้เคียงกัน