Day 1 : กรุงเทพฯ
Day 2 : โดฮา (กาต้าร์)-อัมสเตอร์ดัมส์-ซานส์สคันส์-อัมสเตอร์ดัม (เนเธอร์แลนด์)
Day 3 : อัมสเตอร์ดัม-อัลเมียร์ ชมงาน Floriade Expo 2022-กีธูร์น-อัมสเตอร์ดัม
Day 4 : อัมสเตอร์ดัม-ชมเมือง-ล่องเรือหลังคากระจก-เข้าชมโรงงานเจียระไนเพชร-กรุงเฮก-ร็อตเตอร์ดาม
Day 5 : ร็อตเตอร์ดาม (เนเธอร์แลนด์)-บรูจจ์-บรัสเซลส์ (เบลเยี่ยม)
Day 6 : บรัสเซลส์-ช้อปปิ้ง Maasmechelen Village Outlet (เบลเยี่ยม)-โคโลญจ์-แฟร้งค์เฟิร์ต (เยอรมัน)
Day 7 : แฟร้งค์เฟิร์ต-ชมเมืองเก่าโรเมอเบิร์ก-สนามบินแฟร้งค์เฟิร์ต (เยอรมัน)
Day 8 : โดฮา-สนามบินสุวรรณภูมิ
****อ่านรายละเอียด****
Day 1 : กรุงเทพฯ
23.30 น. นัดคณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูหมายเลข 8 เคาน์เตอร์ Q สายการบิน Qatar Airways เจ้าหน้าที่พร้อมคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระ
**กรณีท่านที่เดินทางมาจากต่างประเทศหรือต่างจังหวัดกรุณาตรวจสอบเวลาการเดินทางแต่ละกำหนดการเดินทางอีกครั้งก่อนทำการจองตั๋วโดยสารส่วนตัวของท่าน เนื่องจากรายการทัวร์เป็นรายการซีรี่และได้มีการดำเนินการไว้ล่วงหน้าหลายเดือน เมื่อเปลี่ยนฤดูกาล เวลาการเดินทางอาจมีการปรับเปลี่ยนตามฤดูกาลเล็กน้อย**
Day 2 : โดฮา (กาต้าร์)-อัมสเตอร์ดัมส์-ซานส์สคันส์-อัมสเตอร์ดัม (เนเธอร์แลนด์)
02.30 น. ออกเดินทางสู่กรุงโดฮา โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR837
05.45 น. เดินทางถึงสนามบินกรุงโดฮา ประเทศกาต้าร์ เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง
08.10 น. นำท่านออกเดินทางสู่กรุงอัมสเตอร์ดัมส์ โดยสายการบินกาต้าร์แอร์เวย์ส เที่ยวบินที่ QR273
13.55 น. เดินทางถึงกรุงอัมสเตอร์ดัมส์ นครหลวงแห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว รถโค้ชรอรับท่านที่สนามบินอัมสเตอร์ดัม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านวัฒนธรรมฮอลแลนด์ ซานส์สคันส์ Zaanse Schans (ใช้เวลาเดินทางประมาณ30 นาที) หมู่บ้านอนุรักษ์กังหันลมเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ โดยหมู่บ้านแห่งนี้ถือว่าเป็นสถานที่ที่เก็บรวบรวมประวัติศาสตร์ของกังหันลมเอาไว้เป็นอย่าง ดี ซึ่งจะได้พบกับความสวยงามอย่างลงตัวของหมู่บ้านที่สร้างขึ้นสไตล์บ้านไม้แบบฮอลแลนด์ สัมผัสบรรยากาศแบบชนบทที่สวยงาม ซึ่งประกอบไปด้วยแม่น้ำ ทุ่งหญ้าและการปศุสัตว์ ให้ท่านได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับกังหันลม จัดเป็นหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งกังหันของประเทศนี้ได้มีการใช้ประโยชน์เป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะในด้านการผันน้ำ วิดน้ำระบายน้ำเพื่อเอาดินในทะเลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในด้านต่างๆ พร้อมชมการทำรองเท้าไม้ ที่ถือเป็นของและ สินค้าที่ระลึกที่สำคัญของเนเธอร์แลนด์ และการทำชีสแบบเนเธอร์แลนด์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของฟาร์ม Catharina Hoeve CheeseFarm ให้ท่านได้ชมวิธีสาธิตการทำ การตัดชีส รวมถึงอุปกรณ์การใช้งาน และลองชิมสโตรปวาฟเฟิล ขนมชื่อดังของเนเธอร์แลนด์และพร้อมให้ท่านเลือกซื้อเป็นของฝาก จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเข้าสู่เมืองอัมสเตอร์ดัม Amsterdam (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ถือเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของคนทั่วโลก และยังเป็นเมืองที่ติดอันดับโลกที่มีบรรยากาศสวยงามน่าอยู่อาศัยแห่งหนึ่งในยุโรป
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
จากนั้น นำท่านเดินทางเข้าสู่
ที่พัก Hotel NH Naarden หรือระดับเทียบเท่า
Day 3 : อัมสเตอร์ดัม-อัลเมียร์ ชมงาน Floriade Expo 2022-กีธูร์น-อัมสเตอร์ดัม
เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่าน เดินทางสู่เมืองอัลเมียร์หรืออัลเมเร่อ Almere (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองสำคัญของจังหวัดฟลีโวลันด์ และจัดเป็นเมืองใหม่ที่สุดของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นเมืองที่เกิดจากการผันน้ำทะเลออกเพื่อสร้างผืนแผ่นดินเพื่อใช้เป็นพื้นที่ทำการเกษตร แต่เมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมาจำนวนประชากรมีการเติบโตอย่างรวดเร็วทำให้มีการประกาศยกระดับให้เป็นเมืองเทศบาลที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดฟลีโวลันด์ นอกจากนี้ยังเป็นเกาะเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากพื้นที่ที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 4 เมตร โดยมีเขื่อนกั้นน้ำไว้เป็นแนวป้องกัน โดยก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1986 แม้ว่าเมืองนี้จะเป็นเมืองใหม่แต่กลับมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม เส้นทางจักรยานหลายร้อยกิโลเมตรและเส้นทางชายหาดที่ทอดยาวและทิวทัศน์ธรรมชาติโอบล้อมกันอย่างกลมกลืน นำท่านเข้าชมงาน Floriade Expo 2022 งานนิทรรศการพืชสวนของชาวดัตช์ ที่ได้รับการการรับรองให้เป็นงานพืชสวนยิ่งใหญ่ระดับโลก (A1) ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศและสำนักงานจัดงานมหกรรมนานาชาติ และถูกจัดขึ้นในทุก 10 ปี และจะหมุนเวียนไปตามเมืองต่างๆ โดยมีการจัดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.1960 และในปี 2022 นี้ถูกจัดขึ้นในธีม Growing Green Cities โดยจะเน้นการรวมธรรมชาติและเมืองเข้าด้วยกันซึ่งเป็นการนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับเมืองแห่งอนาคต และประเทศไทยได้รับเชิญให้เข้าร่วมจัดงานเอ็กซ์โปร์ครั้งนี้อีกด้วยระหว่างวันที่ 14 เม.ย.-9 ต.ค.2565 นำท่านชมงานบนพื้นที่กว้างใหญ่โดยแบ่งเป็นส่วนเหนือและส่วนใต้ ด้วยการนั่งกระเช้าที่มีความยาวกว่า 850 เมตร ชมสถานที่ซุ้มงานและดอกไม้นานาพันธุ์จากประเทศต่างๆ ที่สามารถสะท้อนพันธุ์ไม้และความเป็นตัวตนของแต่ละประเทศและให้ท่านถ่ายรูปกับความสวยงามและเช็คอินไปตามจุดต่างๆ ในงานตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ.ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านกีธูร์น Giethoorn Village (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) นำชมเมืองที่ประกอบไปด้วยหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีความน่ารักมากมาย มีผู้คนอาศัยอยู่ราว 2,600 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวไร่ที่มีฐานะดี บ้านแต่ละหลังมีการออกแบบและตกแต่งให้เป็นกระท่อมสไตล์ตะวันตกที่แสนน่ารักอบอุ่น มีคลองขนาดเล็กที่มีความยาวกว่า 7.5 กิโลเมตร แทรกตัวไปทั่วหมู่บ้าน มีสะพานไม้ทรงสวยมากกว่า 170 สะพาน ไว้เชื่อมระหว่างบ้านเรือนเข้าหากัน ชาวบ้านที่นี้ใช้เรือเป็นพาหนะในการเดินทางสัญจรเท่านั้น ไม่เว้นแม้แต่บุรุษไปรษณีย์ก็ต้องพายเรือส่งไปรษณีย์เช่นกัน จึงกลายเป็นเอกลักษณ์ที่แสนมีเสน่ห์ของหมู่บ้านกีธูร์น จนทำให้ได้รับการขนานนามว่าเป็นเวนิสแห่งเนเธอร์แลนด์ (The Venice of the Netherlands) ในปี ค.ศ.1958 ภาพยนตร์ตลกชื่อดังของ Bert Haanstra อย่าง Fanfare ได้ใช้หมู่บ้านกีธูร์นเป็นฉากหลักในการถ่ายทำ และมีผลทำให้หมู่บ้านไร้ถนนแห่งนี้ กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง จนมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกพลัดกันมาเยี่ยมชมความสวยงามสุดโรแมนติกของหมู่บ้านกีธูร์น ให้ท่านชมทัศนียภาพของหมู่บ้านและ นำท่านล่องเรือในลำคลองน้ำใสท่ามกลางอากาศแสนบริสุทธิ์ ชมบ้านเรือนทรงน่ารักที่เรียงรายอยู่ริมฝั่ง เพลิดเพลินไปกับดอกไม้หลากสีสันต่างๆ (ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน) และให้ท่านเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกเป็นของฝาก สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับเข้านครอัมสเตอร์ดัม (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
จากนั้น นำท่านเดินทางเข้าสู่
ที่พัก Hotel NH Naarden หรือระดับเทียบเท่า
Day 4 : อัมสเตอร์ดัม-ชมเมือง-ล่องเรือหลังคากระจก-เข้าชมโรงงานเจียระไนเพชร-กรุงเฮก-ร็อตเตอร์ดาม
เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่าน ชมย่านเมืองเก่าถ่ายรูปด้านนอกกับพระราชวังหลวง Royal Palace หรือภาษาดัชท์ Konniklijk Paleis สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1648-1654 เพื่อใช้เป็นศาลาว่าการเมือง จนมาในปี ค.ศ.1808 ในสมัยของกษัตริย์ Lodewijk Napoleon จึงได้เปลี่ยนมาใช้เป็นที่พักอาศัยของราชวงศ์ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ ได้ถูกใช้เป็นที่รับรองพระราชอาคันตุกะของพระราชินี รวมถึงการผ่านชมบ้านเก่าของแอนน์ แฟรงค์ สถานที่จริงที่แอนน์ แฟรงค์และครอบครัวของเธอใช้หลบซ่อนความโหดร้านของนาซีที่กวาดล้างชาวยิวในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จากนั้นนำท่านชมย่านจัตุรัสดัมส์สแควร์ Dam Square ลานกว้างที่มีสถานที่สำคัญๆ ตั้งอยู่มากมาย ถ่ายรูปกับโบสถ์ใหม่ที่สร้างขึ้นในตอนปลายศตวรรษที่ 14 ผ่านการบูรณะซ่อมแซมปรับปรุงใหม่หลายครั้งจนมีความสวยงาม และถ่ายรูปกับอนุสรณ์สถานแห่งชาติ National Monument ซึ่งเป็นรูปทรงกรวยขาว สูงประมาณ 70 ฟุต สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1956 เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ผู้เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 และให้ท่านถ่ายรูปกับโรงงานเบียร์ไฮเนเก้น Heineken Experience ต้นกำเนิดของเบียร์ไฮเนเก้น โดยก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1864 ปัจจุบันไฮเนเก้นเป็นบริษัทผลิตเบียร์รายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก และเป็นเบียร์ที่มีคุณภาพรวมถึงรสชาติดีที่สุด รับรองด้วยถ้วยรางวัลมากมาย ต่อมาโรงงานได้ปิดตัวลงและปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงมาเป็นพิพิธภัณฑ์ให้กับนักท่องเที่ยวเข้าชม โดยภายในมีการจัดแสดงประวัติ การก่อตั้งโรงเบียร์แห่งนี้และจำหน่ายของที่ระลึกเกี่ยวกับเบียร์ไฮเนเก้น จากนั้นนำท่านเดินทางสู่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติของอัมสเตอร์ดัมเพื่อให้ท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับตัวอักษรI am Amsterdam เป็นสถานที่รวบรวมงานศิลปะของจิตรกรชาวดัตช์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากนั้นเข้าชม โรงงานเจียระไนเพชร ชมกรรมวิธีการเจียรนัยเพชร หนึ่งในสินค้าออกที่สำคัญของเนเธอร์แลนด์ที่จะทำให้เข้าใจถึงวิธีการในการเลือกซื้ออัญมณีล้ำค่านี้ ท่านมีโอกาสเข้าชมโชว์รูมที่จะนำเพชรน้ำดีขนาดต่างๆ มาให้ท่านได้ชม จากนั้นนำท่านสู่ท่าเรือ นำท่าน ล่องเรือหลังคากระจก เพื่อชมบรรยากาศของเมืองเก่าอั มสเตอร์ดัมที่สร้างอยู่ริม 2 ฝั่งคลองที่สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 16-18 ซึ่งคลองนี้ขุดขึ้นมาเพื่อควบคุมระดับน้ำของแม่น้ำแอมสเทลที่มักจะเอ่อล้นเข้าท่วมในเมืองจนเป็นหนึ่งในตำนานของชื่อเมืองและปัจจุบันชาวเมืองยังใช้สัญจรไปมาพร้อมกับสถาปัตยกรรมรูปปูนปั้นต่างๆบ่งบอกถึงความมีฐานะศักดินาและบ้านบางหลังมีอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ.ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ กรุงเฮก Hague (ใช้เวลาประมาณ 50 นาที) เมืองใหญ่อันดับ 3 ของประเทศเนเธอแลนด์ รองจากกรุงอัมสเตอร์ดัมและร็อตเตอร์ดัม นอกจากจะเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแล้ว กรุงเฮก ยังเป็นสถานที่ตั้งของศาลโลกอีกด้วย รวมถึงสถานทูตของเกือบทุกประเทศและของประเทศไทย นำท่านชมเขตเมืองเก่าของกรุงเฮกชมและถ่ายภาพด้านนอกกับอาคารสวยงามของที่ทำการศาลโลกหรือ Peace Palace อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ นำท่านเดินทางสู่เมืองร็อตเตอร์ดัม Rotterdam เมืองท่าหลัก และเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศเนเธอร์แลนด์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมาส ร็อตเตอร์ดัม นับเป็นเมืองท่าใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยอีราสมุส ซึ่งมีชื่อเสียงด้านเศรษฐศาสตร์ และสถาบันสถาปัตยกรรมแห่งเนเธอร์แลนด์ยุคใหม่ ในปี ค.ศ. 2007 ได้รับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็น 'เมืองแห่งสถาปัตยกรรม' นําท่านชมเมืองร็อตเตอร์ดัม ที่มีลักษณะต่างจากเมืองอื่นในเนเธอร์แลนด์คือเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมยุคใหม่ในปี ค.ศ.2007 ได้รับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็น 'เมืองแห่งสถาปัตยกรรม' แวะถ่ายรูปกับสะพานขาวอีราสมูส (Erasmus Bridge) และสะพานแดงวิลเลมส์ (Willems Bridge) 2 ใน 3 สะพานซึ่งเชื่อมเมือง 2 ฝั่งที่ถูกคั่นกลางด้วยแม่น้ำมาสเข้าด้วยกัน ให้ท่านถ่ายรูปกับ ศาลาว่าการประจำเมืองร็อตเตอร์ดัม (City Hall of Rotterdam) อาคารซึ่งรอดพ้นจากการโดนถล่มเมืองโดยกองทัพของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่
ที่พัก Novotel Rotterdam Schiedam หรือระดับเทียบเท่า
Day 5 : ร็อตเตอร์ดาม (เนเธอร์แลนด์)-บรูจจ์-บรัสเซลส์ (เบลเยี่ยม)
เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่าน เดินทางข้ามพรมแดนเข้าสู่เขตประเทศเบลเยี่ยม เดินทางสู่ เมืองบรูจจ์ Brugge ฉายาเวนิสแห่งเบลเยี่ยม หรือ Venice of the North เมืองใหญ่ที่สุดและเป็นเมืองหลวงของจังหวัดฟลานเดอร์สตะวันตก ที่ได้รับการประกาศกับยูเนสโกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2000 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง)
นำท่าน เดินเล่นชมเมืองเก่าบรูจจ์ ที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์และสถาปัตยกรรมการก่อสร้างอาคารของชาวเบลเยี่ยมตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 รายล้อมด้วยคูคลองน้อยใหญ่ ซึ่งได้รับการอนุรักษ์มาจนถึงปัจจุบันและคงความสวยงามไม่แพ้เมืองหลวงอย่างบรัสเซส์ นำท่านเยี่ยมชมโบสถ์พระโลหิตศักดิ์สิทธิ์ Basilica of theHoly Blood โบสถ์โรมันคาทอลิก สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 12 ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบรูจจ์ เป็นที่เก็บพระโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู ซึ่งเป็น 1 ในสถานที่ที่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก และถ่ายรูปกับอาคารศาลาว่าการเมือง อาคารเก่าแก่ที่สุดของเมืองบรูจจ์ที่มีอายุกว่า 600 ปี จากนั้นนำท่านสู่บริเวณแกรนด์เพลซ หรืออาคารเบลฟรี ที่นับว่าเป็นฮอล์ลที่ก่อสร้างด้วยอิฐและนับว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดของเบลเยี่ยมและยังมีตลาดที่เก่าแก่ Markt Square มาจากศตวรรษที่ 15 ที่ยังคงอนุรักษ์บ้านเรือนในยุคกลางไว้ได้เป็นอย่างดี ให้ท่านถ่ายรูปกับหอระฆังสูงตระหง่าน ปัจจุบันบริเวณนี้ใช้เป็นที่นัดพบของชาวเมืองในท้องถิ่น รวมถึงรูปปั้นของJan Breydel และ Pieter de Coninck วีรบุรุษแห่งเสรีภาพในช่วงการต่อสู้กับฝรั่งเศสเมื่อต้นศตวรรษที่ 14
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ.ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ กรุงบรัสเซลส์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยม และยังเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศที่สำคัญหลายแห่ง หน่วยงานสำคัญของสหภาพยุโรป 2 หน่วยงาน คือ คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) และคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (Council of the European Union) ที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงบรัสเซลส์ นอกจากนี้บรัสเซลส์ยังเป็นที่ตั้งของนาโต (NATO) ทำให้หลายประเทศมีสถานทูตในบรัสเซลส์ถึง 3 แห่ง คือ สถานทูตปกติของแต่ละประเทศ สถานทูตประจำสหภาพยุโรป และสถานทูตประจำนาโต นำท่านเข้าสู่เขตเมืองบรัสเซลส์ ชมและถ่ายรูปภายนอกของ อะโตเมี่ยม ประติมากรรมอันงดงามสัญลักษณ์ของงานแสดงสินค้าเอ็กซ์โป ซึ่งจัดขึ้น ณ ประเทศเบลเยี่ยม ถือเป็นผลงานชิ้นสำคัญและปัจจุบันถือเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของกรุงบรัสเซลส์ จากนั้นนำท่านชมเมืองและชมความสวยงามของจัตุรัสแกรนด์เพลซ ที่เป็นแลนด์มาร์คของบรัสเซลส์ สถานที่ตั้งของอดีตพระราชวังหลวง ศาลาว่าการเมืองเก่า ที่มีสร้างด้วยศิลปะหลายยุคสมัยทั้งสไตล์โกธิค บารอคและรอคโคโค นำท่านถ่ายรูปคู่กับ หนูน้อยมาเนเคนพีส หรือหนูน้อยยืนฉี่ สัญลักษณ์ที่สำคัญยิ่งของบรัสเซลส์และเลือกซื้อของฝากและช็อคโกแล็ตรูปหนูน้อยมาเนเคสพิสแสนอร่อย ซึ่งประเทศเบลเยี่ยมยังเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านความอร่อยของช็อคโกแล็ตอีกด้วย และมีเวลาให้ท่านเลือกซื้อของฝากจากจัตุรัสแกรนด์เพลสและเดินเล่านถ่ายรูปกับอาคารที่มีสถาปัตยกรรมสวยๆ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
จากนั้น นำท่านเดินทางเข้าสู่
ที่พัก The Gresham Belson หรือระดับเทียบเท่า
Day 6 : บรัสเซลส์-ช้อปปิ้ง Maasmechelen Village Outlet (เบลเยี่ยม)-โคโลญจ์-แฟร้งค์เฟิร์ต (เยอรมัน)
เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่าน เดินทางสู่มาสเมเคอเลิน เป็นเมืองในระดับเทศบาลของประเทศเบลเยี่ยมตั้งอยู่ริมแม่น้ำเมิซ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) นำท่านเข้าสู่แหล่งช้อปปิ้งเอ๊าท์เล็ตที่มีชื่อเสียง มาสเมเคอเลิน Maasmechelen Village จัดเป็นแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำในเขตประเทศแถบเบเนลักซ์ ประกอบไปด้วยอาคารร้านค้าสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบเดียวกับหมู่บ้านมาสเมเคอเลิน และยังได้รับการอนุญาตเป็นพิเศษให้เปิดทำการค้าในวันอาทิตย์ มีเวลาให้ท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำกว่า 100 ร้านค้าที่ต่างนำมาจัดโปรโมชั่น ได้แก่ Armani, Boss, Coach, Prada, Polo Ralph Lauren, Salvatore Ferragamo, Swarovski, Max Mara,Beverly Hills, Karl Lagerfeld, The North Face, Puma, Samsonite, Levi’s, ASICS, Lacoste, Bally, L’Occitane, Clarins, DKNY, Fossil, Furla, Kipling, Calvin Klein, Superdry, Converse, Hackett,Guess, Geox, Timberland, Tommy Hilfiger, DIESEL, Nike, New Balance, Michael Kors เป็นต้น รวมทั้งยังมีร้านอาหารให้เลือกหลากหลาย อาทิ อาหารสไตล์อิตาเลียน Giuliano หรือจะเป็นอาหารแบบเบาๆ ที่ร้าน Le Pain Quotidien, Chez Lulu หรือร้านนั่งสบายๆ Le Petit Belge หรือ Ellis หรือของหวานที่ร้าน Leonidas เป็นต้น
*เพื่อความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้าอิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัยภายในอ๊าท์เล็ต*สมควรแก่เวลานัดหมาย จากนั้นนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ เมืองโคโลญจ์ ประเทศเยอรมัน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง) โคโลญจ์ถือเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศเยอรมัน รองจากเมืองเบอร์ลิน ฮัมบวร์คและมิวนิค เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศเยอรมัน ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไรน์ จัดเป็นเมืองเก่าแก่ที่ตั้งมาตั้งแต่สมัยโรมัน ชื่อเมืองนี้มาจาก “โคโลเนีย” ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐ Nordrhein-Westfalen เยอรมันเหนือใกล้กับเมืองบอนน์ เมืองหลวงเก่าของเยอรมันตะวันตกในสมัยอดีตก่อนการรวมตัวกันกับเยอรมันตะวันออก ชาวไทยเราจะรู้จักเมืองนี้ตามชื่อของน้ำหอม โอ เดอร์ โคโลญจน์ (Eau de Cologne 4711) และยังเป็นแหล่งผลิตน้ำหอมดังกล่าวมาตั้งแต่เกือบ 300 ปี เลข 4711 คือเลขที่ของบ้านผู้ผลิตนั่นเอง นำท่านเข้าชมมหาวิหารโคโลญจ์ Cologne Cathedral เป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคดั้งเดิมที่อยู่ในรายชื่อของสถานที่แห่งมรดกโลก เป็นศาสนสถานของคริสต์ศาสนาโรมันคาทอลิก นับเป็นวิหารที่ใหญ่และสูงที่สุดในโลกในสมัยนั้น ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบโกธิค เป็นหอคอยแฝดสูง 157 เมตร กว้าง 86 เมตร ยาว 144 เมตร สร้างเพื่ออุทิศให้นักบุญปีเตอร์และพระแม่มารี เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1248 แต่มีปัญหาให้ต้องหยุดพักการก่อสร้างไปบ้าง จึงต้องใช้เวลากว่า 600 ปีจึงสร้างเสร็จสมบูรณ์ และสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1880 และครั้งหนึ่งสมเด็จพระปิยมหาราช รัชกาลที่ 5 ของประเทศไทย ได้เคยเสด็จมาเยือนเมื่อคราวเสด็จประพาสเยอรมันครั้งแรกในปี ค.ศ.1897 ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เครื่องบินพันธมิตรได้ถล่มวิหารแห่งนี้รวม 14 ครั้ง แต่ทุกครั้งเหมือนมีมนตร์ขลัง ลูกระเบิดพลาดจากมหาวิหารไปทุกคราวไป คงความเสียหายแก่มหาวิหารเพียงเล็กน้อย จากนั้นเดินเที่ยวชมเมืองโคโลญจ์พร้อมช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง, ของที่ระลึก, น้ำหอมโคโลญจ์ 4711 ตลอดจนสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังนานาชนิดบนถนน Walking Street รอบมหาวิหาร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองแฟร้งค์เฟิร์ต Frankfurt เมืองใหญ่ที่สุดของรัฐเฮสส์และใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไมน์ และยังเป็นที่ตั้งของตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ตและธนาคารกลางยุโรป และยังเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในกลุ่มสหภาพยุโรป (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมืองกับเมนูพิเศษ!! ขาหมูเยอรมันทานกับโฮมเมดไวน์แอ็ปเปิ้ล
จากนั้น นำท่านเดินทางเข้าสู่
ที่พัก NH Frankfurt Airport West หรือระดับเทียบเท่า
Day 7 : แฟร้งค์เฟิร์ต-ชมเมืองเก่าโรเมอเบิร์ก-สนามบินแฟร้งค์เฟิร์ต (เยอรมัน)
เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านชม จัตุรัสกลางเมืองโรเมอร์ อันงามสง่า มีบ้านไม้ทรงเยอรมันที่ได้สร้างจำลองมาจากของเก่า โดยรักษารูปแบบสถาปัตยกรรมโบราณอันสวยงามไว้ได้อย่างดีเยี่ยม นำท่านชมภายนอกของมหาวิหารโดมแห่งแฟร้งค์เฟิร์ต ที่ได้รับการบูรณะขึ้นมาหลังได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้ท่านเดินเล่นและช้อปปิ้งย่านจัตุรัสโรเมอร์ Romerberg ซึ่งเป็นจัตุรัสที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง ด้านข้างก็คือ Frankfurt City Hall หรือศาลาว่าการเมือง ศิลปะแบบโกธิคที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นในปี 1405 ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจัตุรัส จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่สุดจุดหนึ่งในแฟร้งค์เฟิร์ต มีอาคาร 9 อาคาร ซึ่งได้รับมาจากครอบครัวพ่อค้าครอบครัวหนึ่ง โดยอาคารตรงกลางกลายเป็น City Hall และถูกเชื่อมกับอาคารรอบๆ สถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของรัฐบาลท้องถิ่นมามากกว่า 600 ปี โดยทั้งภายนอกและภายในมีการตกแต่งด้วยสไตล์โกธิคสมัยใหม่ ซึ่งมีความสวยงามเป็นอย่างมาก พบกับอาคารกึ่งไม้ซุงอันงดงามแบบฟาคแวร์กเฮ้าส์ที่เรียกว่า “ออสไซเล่อ” ที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นมาใหม่โดยสามารถรักษารายละเอียดของอาคารดั้งเดิมที่เคยถูกทำลายหมดสิ้นเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สองได้ทุกรายละเอียด จากนั้นนำท่านถ่ายภาพความสวยงามของน้ำพุแห่งความยุติธรรม Gerechtigkeitsbrunnen ที่ตั้งเด่นเป็นตระหง่านอยู่กลางลาน ผ่านชมโบส์ถเซ้นต์พอลและวิหารใหญ่ประจำเมือง อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าหลากหลาย บริเวณถนนสายช้อปปิ้งย่านถนนซายล์ Zeil ถนนสายช้อปปิ้งที่ยาวที่สุดของประเทศเยอรมนีที่เต็มไปด้วยร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังเรียงรายอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Hugo Boss, Chanel, Giorgio Armani เป็นต้น และเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ทั้งขนม ช็อคโกแล็ตและสินค้าที่ระลึกตามอัธยาศัย *เพื่อความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้าอิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัยภายในเขตเมืองเก่า*
13.30 น. สมควรแก่เวลานัดหมาย นำท่านเตรียมตัวเดินทางสู่สนามบินแฟร้งค์เฟิร์ต
17.35 น. ออกเดินทางสู่กรุงโดฮา โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR068
00.25 น. เดินทางถึงสนามบินกรุงโดฮา ประเทศกาต้าร์ เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง
Day 8 : โดฮา-สนามบินสุวรรณภูมิ
02.20 น. นำท่านออกเดินทางจากสนามบินกรุโดฮา โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR836
13.10 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ..
**กรณีที่บางท่านเดินทางกลับต่างประเทศหรือต่างจังหวัด โปรดตรวจสอบเวลาการเดินทางแต่ละกำหนดการเดินทางอีกครั้งก่อนทำการจองตั๋วโดยสารส่วนตัวของท่าน เนื่องจากรายการทัวร์เป็นรายการซีรี่และได้มีการดำเนินการไว้ล่วงหน้าหลายเดือน เมื่อเปลี่ยนฤดูกาล เวลาการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย**