สำคัญ!! กรุณาแจ้ง..รหัสโปรแกรม..ทุกครั้งที่สอบถาม
ตะลุยสำรวจสถาปัตยกรรมและความสวยงามตามเส้นทางธรรมชาติ ฟรี!!!น้ำหนักกระเป๋า 30 kg./CARRY ON 8 kg. อาหารบนเครื่อง1มื้อ/ขา
#เที่ยวยุโรป
Day 1 : สุวรรณภูมิ
Day 2 : อิสตันบลู – ท่าอากาศยานนานาชาติบาทูมี่ – เมืองบาทูมี่ - ป้อมโกนิโอ -จัตุรัสเปียเซซ่า - ประติมากรรม Ali and Nino
Day 3 : เมืองบาทูมี – ล่องเรือริมฝั่งทะเลดำ - เมืองคูทาอีซี - อนุสาวรีย์ธรรมชาติ
Day 4 : เมืองคูทาอีซี - โบสถ์ Gelati Monastery - เมืองบอร์โจมิ – นั่ง cable car ชมวิวเมืองจากอุทยานแห่งชาติ Borjomi city park
Day 5 : เมืองบอร์โจมิ – Uplistsikhe - เมืองถ้ำโบราณ - พิพิธภัณฑ์ โจเซฟ สตาลิน - เทือกเขา Kazbegi – ป้อมอนานูรี - โบสถ์ Gergeti Trinity Church – อนุสาวรีย์มิตรภาพรัสเซียและจอร์เจีย
Day 6 : เมืองมิสเคด้า – มหาวิหารจวารี – วิหารสเวติสเคอเวรี - เมืองทบิลิชิ
Day 7 : เมืองทบิลิชิ - โบสถ์เมเตห์คี – สะพานสันติภาพ - สะพานสันติภาพ – นั่งกระเช้าเคเบิลคาร์ชมป้อมนาริกาลา - ศูนย์การค้า East Point Mall - ท่าอากาศยานนานาชาติทบิลิชิ – ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบลู
Day 8 :อิสตันบลู - สุวรรณภูมิ
---อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม---
Day 1 : สุวรรณภูมิ
20:00 น. พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออกชั้น 4 ประตู 10 เคาท์เตอร์ U สายการบิน TURKISH AIRLINES โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ติดแท็กกระเป๋าก่อนขึ้นเครื่อง
ลูกค้าจำเป็นต้องแสดงเอกสาร
เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด จะต้องเป็นเอกสารที่ออกโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทย (the Department of Disease Control, Ministry of Public Health, Thailand) คือวัคซีนพาสปอร์ต (สามารถขอผ่านแอปหมอพร้อมได้ ผู้ที่อยู่ต่างจังหวัดสามารถขอได้ที่สาธารณสุขจังหวัด ลูกค้าจัดเตรียมด้วยตนเอง
23:00 น. นำท่านเดินทางสู่ ประเทศจอร์เจีย โดยสายการบิน TURKISH AIRLINES เที่ยวบินที่ TK069
Day 2 : อิสตันบลู – ท่าอากาศยานนานาชาติบาทูมี่ – เมืองบาทูมี่ - ป้อมโกนิโอ -จัตุรัสเปียเซซ่า - ประติมากรรม Ali and Nino
05:15 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบลู ประเทศตุรกี แวะพักเปลี่ยนเครื่องโดย สายการบิน TURKISH AIRLINES
06:45 น. นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติบาทูมี ประเทศจอร์เจีย เที่ยวบินที่ TK390
09:35 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติบาทูมี ประเทศจอร์เจีย นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากร นำท่านเดินทางไปสู่ เมืองบาทูมี่ (Batumi) เมืองหลวงของรัฐอัดจารา (Ajara) สาธารณรัฐอิสระที่ปกครองตนเองในประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่บนริมทะเลบนชายฝั่งตะวันออกของทะเลดํา (Black Sea) เมืองนี้เต็มไปด้วยแสงสีเสียงจนได้รับฉายาว่าเป็น “The Las Vegas of the Black Sea หรือ ลาสเวกัสแห่งทะเลดำ’’ ถึงจะเต็มไปด้วยความทันสมัย แต่ก็ยังมีธรรมชาติและความเก่าแก่หลงเหลืออยู่มากมาย นำทุกท่านเดินทางสู่ ป้อมโกนิโอ (Gonio Fortress) คือป้อมที่เก่าแก่ที่สุดในจอร์เจีย ตั้งอยู่ทางภาคตะวังตกเฉียงใต้ของประเทศ หมู่บ้านแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษ 7-8 ก่อนคริสตกาล ป้อมโกนิโอ สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นป้อมปราการของชาวโรมันในคริสต์ศตวรรษที่2 ในยุคจักรวรรดิแซนไทน์ก็ยังใช้เป็นป้อมปราการเช่นกัน ลักษณะของป้อมที่หลงเหลือให้เห็นในปัจจุบันมาจากการฟื้นฟูขึ้นใหม่ใน คริสต์ศตวรรษที่ 16 ป้อมแห่งนี้มีความยาวทั้งหมด 900 เมตร กำแพงสูง 5 เมตร และหอคอย 18 แห่งที่สูง 7 เมตร ได้รับการอนุรักษ์ไว้ ป้อมโกนิโอเป็นหนึ่งในจุดหมายที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเยี่ยมเยียนอีกด้วย อิสระให้ท่านชอปปิ้งตามอัธยาศัยที่ ตลาด Boni ตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองบาทูมี เป็นตลาดระหว่างตึกสองหลัง คล้ายกับตลาดนัดประเทศไทย ขายของพื้นเมืองทั่วไปของประเทศจอร์เจีย เช่น อาหาร ขนม ผัก ผลไม้ ไวน์ และวอดก้า และของพื้นเมือง)
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (มื้อที่1)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสเปียเซซ่า (Piazza Square) เมืองบาทูมี แหล่งท่องเที่ยวสำคัญใจกลางเมือง สร้างขึ้นในปี 2009 เป็นอาคารที่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังชาวจอร์เจีย Vazha Orbeladze ที่สร้างด้วยสไตล์สถาปัตยกรรมแบบผสมผสานและจินตนาการนิทาน และในปี 2011 ที่ผ่านมา สถานที่แห่งนี้ได้เริ่มปรับปรุงเพื่อให้เป็นแหล่งบันเทิงและพักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่ของเมือง ซึ่งประกอบไปด้วยภัตตาคาร โรงแรม ไนท์คลับ และอื่นๆ ไปชมความสวยงามที่ ประติมากรรม Ali and Nino ที่ตั้งอยู่ในเมืองบาทูมี รูปปั้น ชาย หญิง ที่ถูกแกะสลักจากเหล็ก มีความสูงถึง 8 เมตร นับว่าเป็นรูปปั้นที่สูงมาก จนต้องแหวนหน้ามองกันเลยทีเดียวประติมากรรมนี้ ถูกออกแบบมาให้มีความน่าสนใจและแปลกประหลาด แบบที่ไม่เคยมีที่ไหนทำมาก่อน สร้างขึ้นโดยศิลปินที่ชื่อว่า Tamara Kvesitadze โดยการสร้างรูปปั้นนี้ Tamara ได้รับแรงบัลดาลใจจากนวนิยายชื่อดัง เรื่อง Kurban ที่เนื้อเรื่องเล่าถึง ความรักที่แสนอาภัพของ Ali ชายหนุ่มชาวมุสลิม และ Nino หญิงสาวชาวจอร์เจีย ที่เป็นคริสเตียน ซึ่งทั้งคู่ได้พรัดพรากจากกันเนื่องจากการรุกรานของโซเวียต
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร (มื้อที่2)
ที่พัก: Hotel in Batumi 4* หรือระดับใกล้เคียงกัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย5-7วันก่อนวันเดินทาง)
Day 3 : เมืองบาทูมี – ล่องเรือริมฝั่งทะเลดำ - เมืองคูทาอีซี - อนุสาวรีย์ธรรมชาติ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่3)
จากนั้นนำท่าน ล่องเรือริมฝั่งทะเลดำของบาทูมี ชมความสวยงามของทะเล และบ้านเรือนโดยรอบที่ถูกสร้างขึ้นตามแบบรูปทรงโบราณที่ปลูกกันอย่างสวยงามตามริมทะเล พร้อมกับรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ เป็นไร่ส้ม พืชพันธุ์ธัญญาหารและต้นชา อิสระให้ท่านได้เที่ยวชมบริเวณทะเลดำ **การล่องเรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ กรณีที่ไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทขอปรับเปลี่ยนโปรแกรมตามความเหมาะสม** จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ตลาดนัดบาทูมี่ อิสระให้ท่านชอปปิ้งตามอัธยาศัย ได้เลือกซื้อขนม เครื่องประดับอีนาเมล ขนมคูซเซล่า ไวน์ และวอดก้า หรือของพื้นบ้านประจำเมืองไปเป็นของที่ระลึกได้เลย
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (มื้อที่4)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคูทาอีซี (Kutaisi) เป็นหนึ่งในเมืองที่มีผู้อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เมืองที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับที่สามในประเทศจอร์เจีย และเมืองหลักของแคว้นอีเมเรทีทางภาคตะวันตกของประเทศ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำรีออนี ห่างจากกรุงทบิลีซีไปทางทิศตะวันตกประมาณ 221 กิโลเมตร พาทุกท่านเข้าชม อนุสาวรีย์ธรรมชาติ (Prometheus cave) ถ้ำนี้ถูกค้นพบและศึกษาโดยนักสำรวจถ้ำชาวจอร์เจีย Mr. Jumber Jishkariani และสมาชิก ในช่วงต้นทศวรรษ 1980 ในปี พ.ศ. 2528 ได้มีการเปลี่ยนถ้ำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงท่องเที่ยว ภายในปี 1989 มีการวางเส้นทางเดินเท้าในถ้ำเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร มีการสร้างบันไดและทางเดิน และอุโมงค์ยาว 150 เมตรถูกเจาะออกที่ทางออก และเริ่มการก่อสร้างอาคารชั้นล่าง ถ้ำมีไฟส่องสว่างชั่วคราว เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มเล็กๆ เริ่มเข้ามาเยี่ยมชมมากขึ้น
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ โรงแรม (มื้อที่5)
ที่พัก: Hotel in Tskhaltubo 4* หรือระดับใกล้เคียงกัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย5-7วันก่อนวันเดินทาง)
Day 4 : เมืองคูทาอีซี - โบสถ์ Gelati Monastery - เมืองบอร์โจมิ – นั่ง cable car ชมวิวเมืองจากอุทยานแห่งชาติ Borjomi city park
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่6)
พาทุกท่านเข้าชม โบสถ์ Gelati Monastery ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1106 ที่มีการวาดลวดลายอย่างสวยงามบนกำแพงโบสถ์ในทุกตารางนิ้ว รวมไปถึงการอนุรักษ์โบสถ์แห่งนี้ให้ยังคงสภาพเดิมได้อย่างสมบูรณ์มาก ทำให้โบสถ์ Gelati Monastery เป็นอีกสถานที่หนึ่งในจอร์เจียได้รับการยกย่องจาก UNESCOอีกด้วย
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง พิเศษ !! ณ ร้าน Marini Rikoti (มื้อที่7)
จากนั้นพาทุกท่านไปที่ เมืองบอร์โจมิ (Borjomi) เมืองตากอากาศเล็ก ๆ ริมแม่น้ำ Mtkvari ในเขตซัมซเค-จาวาเคตี เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับอุตสาหกรรมน้ำแร่มากที่สุดของประเทศจอร์เจีย เพราะมีแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ดีที่สุด เมื่อบวกกับธรรมชาติที่งดงามและอุดมสมบูรณ์จึงทำให้เมืองนี้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ มีโรงแรมหลากหลายสไตล์เปิดให้บริการบ่อน้ำพุร้อน อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ทั้งนี้ก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้ไปเที่ยวชมมากมาย นำทุกท่านเดือนทางสู่ อุทยานแห่งชาติ Borjomi city park ให้ท่านได้ขึ้น cable car ขึ้นไปบนเขา เพื่อชมวิวเมืองด้านล่างทีสวยงาม และลงมาสามารถเข้าไปในสวน ไปยังจุดที่มีบ่อน้ำแร่ และได้ลองชิมน้ำแร่ธรรมชาติที่นี่อีกด้วย อิสระให้ท่านได้พักผ่อนและเก็บภาพความสวยงามตามอัธยาศัย
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร (มื้อที่8)
ที่พัก: Hotel in Bakuriani 4* หรือระดับใกล้เคียงกัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย5-7วันก่อนวันเดินทาง)
Day 5 : เมืองบอร์โจมิ – Uplistsikhe - เมืองถ้ำโบราณ - พิพิธภัณฑ์ โจเซฟ สตาลิน - เทือกเขา Kazbegi – ป้อมอนานูรี - โบสถ์ Gergeti Trinity Church – อนุสาวรีย์มิตรภาพรัสเซียและจอร์เจีย
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่9)
จากนั้นนำท่านเดินทางไปที่ Uplistsikhe เพื่อเข้าชม Cave house เมืองถ้ำโบราณ สมบัติทางประวัติศาสตร์แห่งจอร์เจีย ความสวยงามของวิวธรรมชาติที่มองเห็นได้จากที่นี่แล้ว สถานที่แห่งนี้ถือเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่และมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ถือกำเนิดมาในยุคโบราณ ถึงจะเป็นแค่ห้องหินที่มีเพียงแค่โครงสร้างก็ต้องทึ่งกับความสามารถของมนุษย์ในยุคโบราณ แม้จะไม่ได้มีเครื่องมือที่ช่วยทุ่นแรงเหมือนยุคปัจจุบัน แต่ก็สามารถสร้างทั้งห้องต่าง ๆ วิหาร รวมไปถึงโรงละครที่กว้างขวางและใหญ่โตขึ้นมาได้ เนินด้านบนก็จะทำให้มองเห็นทัศนียภาพที่เป็นพื้นดินสีเขียวชะอุ่มและมีแม่น้ำตัดผ่านซึ่งมีความสวยงามมาก รวมไปถึงพื้นที่หินอันโล่งกว้างก็ทำให้เราได้เห็นภาพอันงดงาม จากนั้นพาทุกท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ โจเซฟ สตาลิน (Joseph Stalin Museum) โจเซฟ สตาลิน อดีตผู้นำสหภาพโซเวียต ซึ่งจอร์เจียคือหนึ่งในประเทศในการปกครองของโซเวียตเมื่อในอดีต พิพิธภัณฑ์อาคารเก่าจำลองบรรยากาศสมัยที่ท่านยังคงมีชีวิตอยู่ สิ่งของเครื่องใช้ โต๊ะทำงาน ภาพถ่าย และรวบรวมชีวประวัติต่างๆ ของโจเซฟ สตาลิน ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งเสียชีวิต ภายในบริเวณพิพิธภัณฑ์ ยังมีบ้านที่ท่านเคยใช้ชีวิตในวัยเด็ก มีรถไฟที่ท่านเคยใช้งาน เหมือนพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต ได้ทั้งความรู้ ได้ทั้งความรู้สึก เป็นอีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจเมื่อมาจอร์เจีย
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (มื้อที่10)
จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เทือกเขา Kazbegi ที่เป็นที่รู้จักจากสถานที่ที่สวยงามในเทือกเขา Greater Caucasus และเป็นศูนย์กลางสำหรับนักเดินป่าและการปีนเขา จุดเด่นคือทุ่งหญ้าอัลไพน์และป่าไม้ของเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ Kazbegi โดยรอบ จากนั้นพาท่านไปเข้าชม ป้อมอนานูรี (Ananuri Fortress) ป้อมปราการเก่าแก่แห่งจอร์เจีย ป้อมปราการนี้ มีกำแพงล้อมรอบ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Aragvi หนึ่งในแม่น้ำสายสำคัญของประเทศจอร์เจีย จากมุมสูง เราจะมองเห็นวิวสวยๆของอ่างเก็บน้ำและภูเขาที่ล้อมรอบ ที่นี่สร้างโดย Duke of Aragvi ช่วงศตวรรษที่ 16-17 เพื่อเป็นป้อมปราการไว้หลบภัยในสงคราม ด้านในมีโบสถ์และหอคอยที่ถูกสร้างไว้อย่างอลังการส่วนข้างล่างเป็นอ่างเก็บน้ำซินวาลี (Zhinvali Reservoir) ไว้ส่งต่อน้ำไปยังเมืองหลวง เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับใช้กันภายในเมืองอีกด้วย
นำท่านนั่งรถ 4W (Four-Wheel รถที่สามารถรับมือกับถนนที่ขรุขระ) เพื่อเยี่ยมชมความมหัศจรรย์ของ Gergeti Trinity Church หรือ Tsminda Sameba ซึ่งที่นี่ก็เป็นโบสถ์คริสต์นิกายออเธอร์ด็อกซ์ ซึ่งเป็นนิกายที่เก่าแก่และที่นี่ก็ถือว่าเป็นชุมชนชาวคริสต์ที่เก่าแก่มาที่สุดแห่งหนึ่งบนโลกนี้ โบสถ์ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 นี้ตั้งอยู่บนภูเขา Kazbegi ที่มีความสูงถึง 2,170 เมตร แม้การเดินทางขึ้นมาค่อนข้างยากลำบาก เพราะถ้าเดินเท้าขึ้นเขาต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง หรือถ้าใช้รถต้องใช้รถ 4W ขึ้นเขามาราว 30 นาที แต่บอกเลยว่าคุ้มค่าและตะลึงเมื่อเห็นสถานที่นี้แน่นอน Friendship Monument อนุสาวรีย์มิตรภาพรัสเซีย–จอร์เจีย หรือ อนุสาวรีย์ สนธิสัญญาจอร์จีฟสค์ เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นในปี 1983 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบสองร้อยปีของสนธิสัญญาจอร์จีฟสค์และมิตรภาพที่ต่อเนื่องระหว่างโซเวียตจอร์เจียและโซเวียตรัสเซีย อนุสาวรีย์นี้ตั้งอยู่บนทางหลวงทหารจอร์เจียระหว่างเมืองรีสอร์ทสกีGudauriและทางผ่านJvari อนุสาวรีย์นี้เป็นหินทรงกลมขนาดใหญ่และโครงสร้างคอนกรีตที่มองเห็นหุบเขา Devil's Valley ในเทือกเขาคอเคซัส ภายในอนุสาวรีย์เป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมทั่วทั้งโครงสร้าง และแสดงให้เห็นฉากประวัติศาสตร์จอร์เจียและรัสเซีย
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร (มื้อที่11)
ที่พัก: Hotel in Gudauri 4* หรือระดับใกล้เคียงกัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย5-7วันก่อนวันเดินทาง)
Day 6 : เมืองมิสเคด้า – มหาวิหารจวารี – วิหารสเวติสเคอเวรี - เมืองทบิลิชิ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่12)
จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองมิสเคด้า เป็นศูนย์กลางทางศาสนาของประเทศจอร์เจีย เมืองที่เก่าแก่ที่สุดของจอร์เจียอายุกว่า 3,000 ปี ตั้งอยู่ห่างจากกรุงทบิลิซี ประมาณ 20 กม. และในอดีตเมืองนี้เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรอิเบเรีย (Iberia Kingdom) ซึ่งเป็นราชอาณาจักรของจอร์เจียในช่วง 500 ปีก่อนคริสตกาล ถึงปี ค.ศ.500 แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรจากสมัยนั้นหลงเหลืออยู่แล้ว นำท่านเข้าชม มหาวิหารจวารี (Jvari Monastry) หรือโบสถ์แห่งไม้กางเขนอันศักดิ์สิทธิ์ ของศาสนาคริสต์นิกายออโธด๊อก สร้างขึ้นเมื่อคริสตวรรษที่ 6 ชาวจอร์เจียสักการะนับถือวิหารแห่งนี้เป็นอย่างมาก ภายในโบสถ์มีไม้กางเขนขนาดใหญ่ ซึ่งชาวเมืองกล่าวกันว่า นักบุญนีโน่ หรือแม่ชีนีโน่ แห่งคัปปาโดเกีย (เมืองหนึ่งในประเทศตุรกีปัจจุบัน) ได้นำไม้กางเขนนี้เข้ามาพร้อมกับการเผยแพร่ศาสนาคริสต์เป็นครั้งแรกในช่วงโบราณกาล
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (มื้อที่13)
จากนั้นนำท่านชมเข้าชม วิหารสเวติสเคอเวรี (Svetitkhoveli Cathedral) สร้างราวศตวรรษที่ 11 โบสถ์แห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของจอร์เจีย สร้างขึ้นโดยสถาปนิกชาวจอร์เจีย ชื่อ Arsukisdze มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่ทำให้ชาวจอร์เจียเปลี่ยนความเชื่อและหันมานับถือศาสนาคริสต์ และให้ศาสนาคริสต์มาเป็นศาสนาประจำชาติของจอร์เจียเมื่อปี ค.ศ.337 และถือเป็นสิ่งก่อสร้างยุคโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศจอร์เจีย ภายในมีภาพเขียนสีเฟรสโก้อย่างงดงาม จากนั้นนำท่านเดินทางไปสู่ เมืองทบิลิชิ Tbilisi เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศจอร์เจียตั้งอยู่ริมแม่น้ำคูรา มีประชากรประมาณ 1.5 ล้านคน ทบิลีซีก่อตั้งขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 5 โดยพระเจ้าวาคตังที่หนึ่งแห่งไอบีเรีย และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นครได้ทำหน้าที่เป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรและสาธารณรัฐจอร์เจีย ระหว่าง ค.ศ. 1801–1917 นครกลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิรัสเซีย โดยทำหน้าที่เป็นนครอุปราชหลวง ครอบคลุมพื้นที่ตอนเหนือและใต้ของคอเคซัสเนื่องจากมีที่ตั้งอยู่ระหว่างทวีปยุโรปกับทวีปเอเชีย และอยู่ใกล้กับทางสายไหม ทำให้กลายเป็นดินแดนกันชนของมหาอำนาจของโลก
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร (มื้อที่14)
ที่พัก: Hotel in Tbilisi 4* หรือระดับใกล้เคียงกัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย5-7วันก่อนวันเดินทาง)
Day 7 : เมืองทบิลิชิ - โบสถ์เมเตห์คี – สะพานสันติภาพ - สะพานสันติภาพ – นั่งกระเช้าเคเบิลคาร์ชมป้อมนาริกาลา - ศูนย์การค้า East Point Mall - ท่าอากาศยานนานาชาติทบิลิชิ – ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบลู
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่15)
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าชม โบสถ์เมเตห์คี (Metekhi Church) ตั้งอยู่เหนือเนินผาสูงริมแม่น้ำมิทควารี (Mtkvari River) เมืองทบิลิซี ประเทศจอร์เจีย สร้างขึ้นระหว่างปี 1278 - 1284 โดยมีอนุสาวรีย์ทรงม้าของกษัตริย์ Vakhtang Gorgasali ผู้สถาปนาทบิลิซีเป็นนครหลวง ตั้งตระหง่านอยู่คู่กันในอดีตโบสถ์ถูกทำลายและได้รับการบูรณะอยู่หลายครั้งเคยถูกใช้เป็นคุกในยุคที่ราชวงศ์ซาร์สปกครองและเปลี่ยนมาเป็นโรงละครในยุคโซเวียต ซึ่งได้รับการบูรณะล่าสุดปลายปี 1980 เพื่อเป็นโบสถ์ออร์โธดอกซ์ของเมือง จากนั้นแวะถ่ายภาพที่ สะพานสันติภาพ (The Bridge of Peace) หรืออีกชื่อก็คือ Mshvidobis Khidi เป็นสะพานที่มีความยาวถึง 150 เมตร ใช้ข้ามแม่น้ำคูรา เพื่อเชื่อมระหว่างตัวเมืองเก่า และตัวเมืองใหม่ของทบิลิซี โครงสร้างหลักของสะพานนี้ทำมาจากเหล็กและกระจกใส มีการเปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2010 ได้รับการยกย่องว่าเป็นงานสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่มีความสวยงามชิ้นหนึ่งของประเทศจอร์เจีย โดยใครที่ไปเยือนสะพานนี้ในช่วงเวลากลางคืนถึงเช้ามืดก็จะได้เห็นแสงสีที่สวยงามของสะพานแห่งนี้ สะพานนี้ออกแบบโดยสถาปัคนิกชาวอิตาเลื่ยนชื่อ Michele De Lucchi โครงสร้างนั้นถูกออกแบบและสร้างที่ อิตาลี่ และ นำเข้ามาโดยรถบรรทุก 200 คัน เพื่อเข้ามาติดตั้งในเมือง Tbilisi ที่ตั้งนั้นอยู่บนแม่น้ำ Mtkvari River สามารถมองเห็นได้หลายมุมจากในเมือง จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้าเคเบิ้ลขึ้นชมป้อมนาริกาลา (Narigala Fortress) ป้อมปราการโบราณสมัยยุคศตวรรษที่ 4 ซึ่งนักประวัติศาสตร์ยกย่องว่าเป็นป้อมปราการป้อมหนึ่งบนเส้นทางสายไหมที่แข็งแกร่งและตีได้ยากที่สุด
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร พิเศษ!!! อาหารไทย(มื้อที่16)
อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัยที่ ศูนย์การค้า East Point Mall เป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ แม้จะอยู่ชานเมือง แต่มีร้านค้ามากมาย แม้ว่าจะไม่ใช่แบรนด์หรู แต่ก็เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเช่นกัน เช่น Zara Mango และ Diesel มีร้านอาหาารและร้านกาแฟน่านั่งหลายร้าน และยัมีห้างคาร์ฟูร์ขนาดใหญ่ 2 ชั้นอยู่ในศูนย์การค้านี้ด้วย อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
14:40 น. ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติทบิลิชิ ประเทศจอร์เจีย เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
17:30 น. เดินทางกลับประเทศไทย โดยสายการบิน TURKISH AIRLINES เที่ยวบินที่ TK383
19:00 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบลู ประเทศตุรกี แวะพักเปลี่ยนเครื่อง
Day 8 :อิสตันบลู - สุวรรณภูมิ
01:45 น. เดินทางกลับกรุงเทพฯโดยสายการบิน TURKISH AIRLINESเที่ยวบินที่ TK068
15:25 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ