สำคัญ!! กรุณาแจ้ง..รหัสโปรแกรม..ทุกครั้งที่สอบถาม
บาดาจอซ โทเลโด มาดริด ซาราโกซ่า บาร์เซโลนา
Day 1 :
22.30 น. พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ทางเข้าที่ แถว 9 เคาน์เตอร์สายการบินเอมิเรตส์ (EK)
Day 2 :
01.45 น. ออกเดินทางสู่ เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส โดย สายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK385/EK191
** แวะเปลี่ยนเครื่องที่เมืองดูไบ : ( 04.55-07.25 )**
12.35 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึง เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว เดินทางสู่ เคปเดอรอก้า ซึ่งเป็น จุดตะวันตกสุดของทวีปยุโรป เป็นที่ ๆ มีแผ่นดินเป็นที่สุดท้ายก่อนเป็นมหาสมุทรแอตแลนติค
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซินตร้า (SINTRA) เมืองพักตากอากาศยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ...นำท่าน ชม (ภายนอก) พีน่า พาเลซ (Pena National Palace) พระราชวังที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือเมืองซินตร้าโดยพระราชวังแห่งนี้ถือว่าเป็น หนึ่งใน เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศโปรตุเกส ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโปรตุเกส โดยในอดีตพระราชวังถูกใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์โปรตุเกสมาตั้งแต่คริสต์ ศตวรรษที่ 14 ภายในถูกตกแต่งประดับประดาอย่างวิจิตรงดงามโดยเฉพาะพื้นกระเบื้องที่ว่ากันว่าสวยงามที่สุดในโปรตุเกส ส่วนใกล้ๆกับพระราชวังจะเป็น พีน่าพาร์ค (Pena Park) สวนป่าขนาดใหญ่ ที่มีการจัดแต่งด้วยต้นไม้หลากหลายชนิด .....
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงลิสบอน (LISBON))เมืองหลวงของประเทศโปรตุเกส ตั้งอยู่ในทวีปยุโรปตอนใต้ บนคาบสมุทรไอบีเรีย เมืองแห่งประวัติศาสตร์การค้นพบอันยิ่งใหญ่ ถึงขนาดมีโคลงกล่าวไว้ว่า “ลิสบอนคือเจ้าหญิงแห่งโลกา ที่แม้แต่มหาสมุทรยังโค้งคำนับให้” นั่นเพราะลิสบอนถือเป็นขอบสุดทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป และเป็นเมืองท่าสำคัญที่ทอดลงสู่ปากอ่าวแม่น้ำตากุส (TAGUS) จนได้รับสมญานามว่า ทะเลสีทอง เพราะเมื่อมองจากจุดนี้ลงไปจะเห็นแสงสีทองของพระอาทิตย์อัสดงประกายวับวาวเหนืออ่าว
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก lisbon HOTEL หรือเทียบเท่า
Day 3 :
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่าน ชม (ภายนอก)วิหารเจอโรนิโม (JERONIMOS MONASTERY) ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ฝังศพและเป็นเกียรติแก่วาสโก ดากามา ที่ได้เดินทางสู่อินเดียเป็นผลสำเร็จ ในปี ค.ศ.1498 จัดเป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของสถาปัตยกรรมที่เรียกกันว่า มานูเอลไลน์ (MANUELINE) ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 70 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์และได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกว่าเป็นมรดกโลก ….
นำท่าน ถ่ายภาพกับหอคอยเบเลม (BELEM TOWER) เดิมสร้างไว้กลางน้ำ เพื่อเป็นป้อมรักษาการณ์ดูแลการเดินเรือเข้าออก และเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเรือออกไปสำรวจและค้นพบโลกของวาสโก ดากามาและนักเดินเรือชาวโปรตุเกส ....
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองบาดาจอซ (BADAJOZ) (247 กม.) เมืองชายแดนทางตะวันตกของสเปน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก CENTER HOTEL หรือเทียบเท่า
Day 4 :
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโทเลโด (TOLEDO) (363 กม.) เมืองประวัติศาสตร์ ซึ่งมีความหมายว่า เมืองป้อมน้อย ในอดีตเป็นเมืองหลวงเก่าของสเปน และเคยถูกชาวโรมันเข้ายึดครองเมืองเมื่อ 2,200 ปีมาแล้ว ปัจจุบันอารยธรรมของชนต่างชาติครั้งก่อนยังคงฝังแน่นคละกันอยู่ในชีวิตประจำวันของชาวเมืองลักษณะผังเมืองโทเลโด เป็นเอกลักษณ์ที่น่าชื่นชมที่สุดของการจัดสร้างเมืองโบราณอันสมบูรณ์แบบตัวเมืองรายล้อมด้วยเนินเขามากมายประดุจกำแพงธรรมชาติด้วยหุบผา 3 แห่งโดยมีแม่น้ำทาโคเป็นเส้นทางคมนาคม นอกจากนี้ยังเป็นใจกลางของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ปัจจุบันได้รับรองจากยูเนสโกประกาศให้เมืองโทเลโดเป็นเมืองมรดกโลก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ** เมนูขาวผัดสเปน **
บ่าย นำท่าน ชมเมืองโทเลโด ซึ่งเป็นนครที่คงความงดงามและความเป็นมาในฐานะเมืองเก่าอันเปรียบเป็นอนุสรณ์แห่งประวัติศาสตร์นั้นยังคงได้รับการยอมรับและ บันทึกเอาไว้โดยองค์การสหประชาชาติว่าเป็นเมืองมรดกโลก
จากนั้น นำท่าน ชมภายนอกมหาวิหารแห่งโทเลโด มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในสเปนเริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1227 อันเป็นสมัยที่ศิลปะแบบโกธิค กำลังแพร่หลายอยู่ในยุโรปและเสร็จสิ้นสมบูรณ์เมื่อปีค.ศ. 1493 ถือเป็นมหาวิหารสไตส์โกธิคที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งและเป็นศูนย์กลางแห่งศาสนาคริสต์ในประเทศสเปนอีกด้วย ...นำท่านเดินลัดเลาะตามตึกรามบ้านช่องเก่าแก่สมัยโรมันท่านจะประทับใจกับความงดงามและความเก่าแก่ของโทเลโดซึ่งเหมือนกับพิพิธภัณฑ์ทั้งเมือง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงมาดริด (MADRID) (73 กม.) เมืองหลวงของประเทศสเปน ตั้งอยู่ใจกลางแหลมไอบีเรียน มหานครอันทันสมัยล้ำยุคที่ซึ่งกษัตริย์ฟิลลิปที่ 2 ได้ทรงย้ายที่ประทับจากเมืองโทเลโดมาไว้ที่นี่ และประกาศให้มาดริดขึ้นเป็นเมืองหลวงใหม่ของพระองค์ จากนั้นระหว่างปี ค.ศ. 1601-1607 เมื่อพระเจ้าฟิลลิปส์ที่ 3 ได้ย้ายไปอยู่ที่วัลลาโดลิด (VALLADOLID) มาดริดก็ได้ความเป็นเมืองหลวงสืบมาจนถึงบัดนี้
จากนั้นนำท่านสู่ พลาซ่ามายอร์ (PLAZA MAYOR) จัตุรัสหลวงศูนย์กลางเมืองเก่าแก่ ย่านถนนคนเดินที่รายล้อมด้วยร้านค้ามากมาย ....อิสระให้ท่านช้อปปิ้ง สินค้านานาชนิด อาทิ กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า ฯลฯ ....
นำท่าน ชมสัญลักษณ์ที่สำคัญของกรุงมาดริด ชมรูปปั้นหมีเกาะต้นเชอรี่สัญลักษณ์ของกรุงมาดริด บริเวณใกล้ๆ กันเป็นจุดศูนย์กลางของเมือง คือ ปัวร์ต้า เดล โซล (PUERTA DEL SOL) หรือจุดกึ่งกลางเมืองกิโลเมตรที่ศูนย์ซึ่งเชื่อกันว่า หากตั้งจิตอธิษฐานในระหว่างที่เหยียบบนจุดกลางเมืองนี้จะสมปรารถนาในสิ่งที่หวังไว้ทุกอย่าง
ผ่านชมอนุสาวรีย์น้ำพุไซเบเลส (THE CIBELES FOUNTAIN) ตั้งอยู่ที่จัตุรัสรัสซิเบเลส (PLAZA DE CIBELES) ซึ่งเป็นวงเวียนสำคัญและสวยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงมาดริด โดยบริเวณนี้ มีอาคารสวยงามและสำคัญ ประจำอยู่ทั้ง 4 มุมได้แก่ ธนาคารแห่งชาติสเปน, กองบัญชาการทหารบกที่ทำการใหญ่ไปรษณีย์ ประตูชัยอาคาล่า และศูนย์วัฒนธรรมทวีปอเมริกาโดย ประตูชัยอาคาล่า มาดริด (SPLENDID PUERTA DE ALCALA) สร้างขึ้นในปี 1599 ประตูชัยแห่งนี้สร้างขึ้น เพื่อถวายแด่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ตั้งตระหง่านทางตะวันออกของใจกลางเมือง…ได้เวลาอันสมควร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่าน ชมระบำฟลามิงโก้อันลือชื่อ ด้วยจังหวะกระทืบเท้ามัน ๆ ในสไตล์ของสเปน ศิลปะที่มีรูปแบบซับซ้อนทั้งเพลงดนตรี และการเต้นรำซึ่งเป็นศิลปะประจำชาติและสร้างชื่อของชาวสเปน
ที่พัก AXOR FERIA หรือเทียบเท่า
Day 5 :
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านชมภายนอกพระราชวังหลวง (PALACIO REAL) ตั้งอยู่บนเนินเขาบริเวณริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส ที่มีความงดงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังอื่นในทวีปยุโรป เนื่องจากแนวความคิดเปรียบเทียบความใหญ่โตของพระราชวังแวร์ซายส์และความสวยงามของพระราชวังลูฟว์ในฝรั่งเศส พระราชวังหลวงแห่งนี้จึงถูกสร้างด้วยหินทั้งหลัง ในปี ค.ศ. 1738 ในสไตล์ บาร็อค โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่างๆ มากมายถึง 2,830 ห้อง ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้ว ยังเป็นที่เก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญ ที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้น รวมทั้งสิ่งของมีค่าต่างๆ อาทิ พัดโบราณ นาฬิกา หนังสือ เครื่องใช้อาวุธ ฯลฯ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองซาราโกซ่า (ZARAGOZA) (314 กม.) ซึ่งเป็นเมืองหลักของแคว้นและ ของ (อดีต) ราชอาณาจักรอารากอน ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสเปน ริมแม่น้ำเอโบร และแควสาขาอวยร์บาและกาเยโกในหุบเขาตอนกลางของแคว้น ซึ่งมีภูมิทัศน์ที่หลากหลายทั้งทะเลทราย (โลสโมเนโกรส) ป่าหนาทึบทุ่งหญ้า ไปจนถึงทิวเขา ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับธรรมชาติหลากหลายและ งดงามแปลกตา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร **หมูหันสเปน**
ที่พัก AXOR FERIA หรือเทียบเท่า
Day 6 :
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่าน ถ่ายภาพ (ภายนอก) กับมหาวิหารแม่พระแห่งเสาศักดิ์สิทธิ์ (BASILICA OF OUR LADY OF THE PILLAR) หรือที่รู้จักในนาม ซานตา มาเรีย เดอร์ฟิลลาร์ ตามตำนานสมัยแรกเริ่มของพระศาสนจักรกล่าวไว้ว่า นักบุญยากอบองค์ใหญ่อัครสาวก (St. APOSTLE JAMES THE GREATER) เป็นผู้นิพนธ์พระวรสารที่ซีซาเรากุสต้า (CAESARAUGUSTA) เป็นชื่อเดิมของเมืองซาราโกซ่า งานเผยแพร่ธรรมของท่านไม่ได้เกิดผลมากมายนัก จนกระทั่งท่านเห็นพระนางมารีมาปรากฏเพื่อชักชวนท่านไปยังกรุงเยลูซาเลม ในนิมิตนั้นพระนางปรากฏอยู่บนเสาที่ถูกแบกมาโดย หมู่เทพนิกร และเชื่อกันว่าเป็นเสาศักดิ์สิทธิ์ต้นเดียวกับที่เป็นที่เคารพนับถือกันใน ซาราโกซ่ามีรายงานว่า คริสต์ศาสนิกชนนิยมมากราบไหว้ขอพรจากพระแม่มารีให้หายจากอาการเจ็บป่วยเป็นจำนวนมาก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองบาร์เซโลนา (BARCELONA) (312 กม.) ประเทศสเปน เมืองใหญ่อันดับสองของสเปน และเป็น เมืองสำคัญที่สุดของแคว้นคาตาลุนญ่า เมืองนี้เป็นที่รู้จักเพราะสถาปนิกสมัยใหม่อย่างอันโตนี่ เกาดี้ รวมถึงศิลปินระดับโลกคนอื่นๆ อาทิ ปาโบล ปิกาสโซ่ฆวน มิโร และมอนท์เซร์ร่าท์ กาบาเย่ การได้รับ เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกเมื่อปี 1992 ทำให้โฉมหน้าของเมืองนี้เปลี่ยนไปอย่างมาก ...หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก EUROSTARS ZARAGOZA หรือเทียบเท่า
Day 7 :
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่าน ชมเมืองบาร์เซโลนา ซึ่งตั้งอยู่บนหาดโคสตาบราวา ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ถ่ายรูปด้านหน้าของโบสถ์อันศักดิ์สิทธิ์ ซากราดาแฟมิเลีย (SAGRADA FAMILIA) มีชื่อเต็มๆ ว่า Temple Expiatori de la Sagrada Família เป็นโบสถ์ประจำเมืองซึ่งได้รับการเรียกขานว่า Church of Holy Family ซึ่งสร้างโดยสถาปนิกที่มีชื่อเสียงก้องโลก ANTONIO GAUDI ผลงานการออกแบบชิ้นสุดท้ายและก่อสร้างอันยาวนานที่สุด ด้วยรูปแบบศิลปะแบบนีโอโกธิค ด้วยแนวความคิดการคืนกลับสู่ธรรมชาติ ตัวอาคารนำเอารูปทรงและพื้นผิวต่างๆจากในธรรมชาติมาใช้ โดยความสูงถึง 150 เมตร ตัวอาคารบรรจงประดับด้วยหินโมเสคประดับด้วยปฎิมากรรมแกะสลักจากหินหลายพันชิ้นจากศิลปินสเปน ปัจจุบันการก่อสร้างโบสถ์แห่งนี้ก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2026
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เอาเลตท์ (La Roca Village) ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าและเสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้ง H&M, ZARA, BENETON, TOPSHOP หรือจะช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำซึ่งมี SHOP
ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อให้ช้อปปิ้งอย่างเต็มที่
Day 8 :
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินกรุงบาร์เซโลนา เพื่อเดินทางกลับสู ประเทศไทย
15.30 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK256 /EK384
Day 9 :
*.*.*. แวะเปลี่ยนเครื่องที่เมืองดูไบ
12.30 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพ ฯ โดยสวัสดิภาพ….