Posted on

รีวิวทัวร์อเมริกา USA by คุณมิวสิค

ทัวร์อเมริกา

การมาของฉันคงมาจากโชคชะตา ตัดสินใจมาก็ลุยเลย คิดง่ายๆ คงมีไม่กี่บริษัทที่มาเอง เจอหน้างานเอง ที่อื่นๆ อาจจะทำโปรแกรมขึ้นมา แต่ยังไม่เคยลองเองจริง เลยตัดสินใจมาทันที อยากทำอะไรต้องได้ทำ นั่ง EVA มาและดันเป็นไฟล์ทสุดท้ายซะด้วย เพราะไต้หวันห้ามคน via ประเทศเค้าแล้ว ขากลับตั๋วฉันเลยโดนเท 555+ คืนเงินมาเลย แต่ความชิบหายคือเราต้องซื้อตั๋ว One Way แพงแน่นอน เจอไปก่อน 1 ดอก ดอกที่ 2 คือรุ่นพี่ที่นัดกันไว้ก็มาไม่ได้เพราะผล PCR ออกช้า สรุปฉันต้องมาคนเดียวลุยคนเดียวในช่วงแรก แต่ตัดสินว่ายังไงก็ต้องไป คนเดียวก็ต้องลุยวะ การจองคิววัคซีนจะทำก่อนออกเดินทางจากไทยเลยนะ เราจะรู้เลยว่าจะไปฉีดที่ไหน วัคซีนตัวไหน เวลาไหน ดังนั้นสบายใจไปกว่าครึ่งว่าเรามีคิวในมือละ.พอมาถึง USA ก็ผ่าน ตม. ปรกติๆ ไม่ได้ถามอะไรเยอะมาก ก็ออกมาสบายๆ นอนโรงแรมแถวสนามบินเพราะจะได้มี shuttle bus ฟรีไม่ต้องเสียเงิน ถึงโรงแรม-นอน-จบ

ดูคลิป ทางนี้ -> CLICK

วันต่อมาก็จะมีคนมารับพาไปฉีด ส่วนใหญ่จะพยายามจองที่ CVS ให้เพราะค่อนข้างรวดเร็วและง่าย สำหรับสาขาที่ผมไปฉีดนั้น แทบไม่ตรวจอะไรเลย Passport ยังไม่ขอดูเลย 555+ เอ๋อไปเลย สรุปฉีดเปรี้ยงจบ ง่ายๆ ชิวๆ ผมก็ไปเที่ยวตาม Landmark ต่างๆของ LA เพื่อรอกรุ๊ปอีกกรุ๊ปตามมา โดยที่ยังไม่รู้ว่าตามมาได้ไหม

ที่ LA ร้านตรง Hollywood Street จะไม่ค่อยมีอะไรกินมาก 7-11 อย่าคิดว่าเหมือนบ้านเรานะ เพราะไก่ อะไรในร้านจะแบบ🤮

เออใช่…ที่นี่มี Thai Town ด้วยนะ นึกอะไรไม่ออกก็อาหารไทยแหละชัวร์สุด แต่ถ้าเราไม่ได้มากับทัวร์ ต้องเช่ารถขับ เพราะ Taxi โคตรแพง รถจะเป็นพวงมาลัยซ้ายนะ จะมึนๆ หน่อยกับการเลี้ยว เช่นที่ไทยซ้ายผ่านตลอด แต่ที่นี่ขวาผ่านตลอด ไทยขับเร็วชิดขวา มันจะสลับๆ ด้านกัน ถ้ามีรถวิ่งนำโอเค แต่ถ้าไม่มีเลยต้องดูดีหน่อย 555+.

และแล้วสรุปว่า…กรุ๊ปก็มาได้ เราก็เที่ยวแบบทัวร์ตามโปรแกรม เพราะเรามาสำรวจ เราเลยเที่ยวแบบทัวร์ราวๆ 8 วัน และมาเช่าโรงแรม เช่ารถขับต่อ จนผมได้ฉีดเข็มที่สอง (ราวๆวันที่ 8 มิ.ย) ลูกค้าที่มาต่อๆมา ก็มีแบบนี้ คือ ในกรุ๊ปมี 2 แบบ เที่ยวรวมกันก่อน 8 วัน และมีคนกลับก่อนบางส่วนและอยู่รอเข็มที่สองบางส่วน สำหรับผมคิดว่าซานฟรานจะมีที่เที่ยวสวยๆมากกว่า LA ร้านอาหารอะไรจะมีอร่อยๆ เยอะกว่า เมืองไม่ใหญ่มาก และสำคัญ ผู้ติดเชื้อหลักสิบเองต่อวัน ที่ USA เค้าใส่ Mask ครึ่งไม่ใส่ครึ่งแล้ว สำหรับ Outdoor แต่ถ้า indoor ยังคงแนะนำให้ใส่กันอยู่

ระหว่างผมรอเข็มที่สอง ก็มาเจอเพื่อนๆพี่ๆที่นี่ ก็ได้ไปเที่ยว Napa Valley และที่อื่นๆ เช่าบ้าน อยู่เพราะมื้อเย็นจะได้ทำอะไรกินเองได้ ประหยัดไปได้หน่อย ที่นี่ตัววัตถุดิบราคาถูกพอสมควร แต่ถ้าเอาไปทำเป็นอาหารตามร้านละก็ แพงกระฉูด ดังนั้นถ้าใครอยากอยู่แบบไม่เปลืองมาก ก็ต้องหาอพาร์ทเมนท์ที่มีครัวหรือบ้านเลย จะช่วยประหยัดได้พอสมควร.มีลูกค้าซื้อแบบ Package บ้าง คือแบบเที่ยวเอง แต่เอาตรงๆ ผมไม่ค่อยแนะนำ เพราะผมอาจจะแก่แล้วก็ได้ เที่ยวแบบลุยๆไม่ค่อยไหวแล้ว 555+ ขอเน้นสบายๆดีกว่า ไป Outlet ก็ไม่ค่อยได้สนใจซื้ออะไรมาก แต่คนอื่นคือซื้อแหลกนะครับ อย่างที่บอกกฎหมายที่นี่เรื่องการขับรถก็โหดมาก ใครมีแรงอยู่มาแบบลุยๆ ก็โอเค แต่ถ้าให้ผมแนะนำ เที่ยวแบบไม่ต้องคิดไร ไม่ต้องแพลน ไม่ต้องเสียเวลา ก็มาแบบทัวร์จะชิวๆ ดีจริงๆ

ตอนนี้ Package Super Save ล่าสุด คือมา 2 ท่าน จ่าย 19,999 / ท่าน รีบฉีด…รีบกลับ มีรถพาไปฉีดวัคซีนและพาเที่ยว 1 วันเต็มๆ แต่จากสนามบินต้องมาโรงแรมเอง & วันกลับต้องไปสนามบินเอง ไม่ต้องกลัวเพราะที่สนามบินมี Taxi จอดรอแบบบ้านเราเลย และตอนกลับก็ให้โรงแรมเรียกรถให้ได้ แต่ตัวแพคเกจนี้จะไม่ค่อยได้เที่ยวอะไรเลย เราเลือกที่ LA เพราะโรงแรมจะไม่แพง และ ตม. เค้าว่ากันว่าที่ LA จะไม่ค่อยถามเยอะ ไม่ค่อยเขี้ยว เลยเลือกทำแพคเกจที่นี่นะฮะ ราคาแบบถูกจัดปลัดบอก รีบฉีด รีบกลับ ของจริง .ต้องบอกก่อนว่ามันเป็นทางเลือกที่หลายคนเลือกได้ แล้วก็ปลดล็อคตัวเองได้ระดับนึงเมื่อเรากลับประเทศไทย ได้ของที่เราอยากได้ การมาที่นี่ไม่ได้บอกว่าที่นี่ดีกว่าที่ไทย แต่เป็นทางเลือกที่เราสามารถทำได้ตอนนี้ การที่เรามาฉีดที่นี่เราก็ต้องมา spend money ที่นี่ค่อนข้างมากพอสมควร มันก็เป็นแลกกันกับการที่เราได้ฉีดวัคซีน ถ้ามองดูดีๆ USA ลงทุนให้วัคซีนนักท่องเที่ยว ถ้าจำตัวเลขไม่ผิดไม่ถึง 100 $ / คน คิดกลมๆ เผื่อๆให้ 200 $ เลยละกัน แต่เรามาอยู่ที่นี่ 25 วัน กิน นอน อยู่ คงไม่ต้องบอกว่ากี่บาท ถ้าพูดถึงความคุ้มค่า มองดีๆ USA เค้าคือคุ้มมากมายมหาศาล .

สรุป : ไม่ได้แนะนำให้มา อยากให้คิดง่ายๆ อยากมาก็มา ไม่ต้องคิดเยอะ โอกาสแบบนี้ในชีวิตไม่ได้มีบ่อยครั้ง ขอให้ทุกคนปลอดภัยจ้า